ความท้าทาย 2 ครอบครัวของพระเจ้า

พระสัญญาของพระเจ้าต่ออับราฮัมในปฐมกาล 12:1-3 ถือเป็นจุดสำคัญในพระคัมภีร์ ความเชื่อว่าพระเจ้าจะทรงรักษาสัญญาแม้ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ ทำให้อับราฮัมเป็นบุคคลตัวอย่างสำหรับทุกคนที่มีสัมพันธภาพกับพระเจ้าผ่านทางความเชื่อ เรื่องราวของอับราฮัมและลูกหลานของเขาหลังจากนั้นแสดงให้เราเห็นว่า ความเชื่ออาจสั่นคลอนได้ แต่พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อ ทรงรักษาพระสัญญาและทรงปกป้องทุกคนที่อยู่ภายใต้พระสัญญานั้น


พระสัญญาของพระเจ้าเกือบไม่มีโอกาสได้สำเร็จเพราะอับราฮัมขาดความเชื่อเมื่ออยู่ต่อพระพักตร์ฟาโรห์ (ปฐมกาล 12:10-20) และอาบีเมเลค (ปฐมกาล 20:1-18) และการตัดสินใจมีลูกกับนางฮาการ์ (ปฐมกาล 16:1-16) รวมถึงความประพฤติต่อมาของอิสอัคและยาโคบด้วย


แต่แม้จะมีเหตุการณ์เหล่านั้น พระเจ้ายังทรงสัตย์ซื่อต่อพระสัญญาของพระองค์ และยังคงรักษาพระสัญญาแม้มนุษย์จะทำผิดพลาด ในที่สุด พระสัญญาของพระเจ้าที่ว่าจะทรงอวยพรประชาชาติทั่วโลกผ่านเชื้อสายของอับราฮัมก็สำเร็จลงที่พระเยซู


เชื่อมโยง: เรื่องราวทั้งห้าในความท้าทายนี้

นี่เป็นเรื่องราวการผจญภัยอันยิ่งใหญ่! ธีมหลักของความท้าทายนี้คือ พระเจ้าทรงเรียกคนต่างๆ ด้วยวิธีที่คาดไม่ถึง และพวกเขาตอบสนอง (แม้จะไม่สมบูรณ์แบบนัก แต่พวกเขาก็ยังตัดสินใจวางใจพระเจ้าผู้ที่พวกเขาไม่ค่อยรู้จัก) เป็นเรื่องราวของพระสัญญาจากพระเจ้าและความไว้วางใจของประชากรของพระองค์

 

สำหรับเด็ก เรื่องหลักในความท้าทายนี้ (เรื่อง "ไม่เดียวดาย") เน้นที่ช่วงเวลา "โดดเดี่ยว" สุดขีด และอยู่ดีๆ พระเจ้าทรงปรากฎแก่ยาโคบในความฝันและชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปเพราะเขาเลือกพระเจ้า ตลอดความท้าทายนี้ ขอให้พยายามช่วยเด็กให้คิดว่า จะเป็นอย่างไรถ้าเขาเป็นอับรามหรือยาโคบ การเดินทางไกลๆ เป็นอย่างไร? จะไปหาอาหารที่ไหน? จะเจอสัตว์ป่าอะไรบ้าง? หรือพวกเขาจะเจอใครระหว่างทาง?

 


  • 06 Time to leave S.18.jpg
    ปฐมกาล 12:1 พระ​ยาห์​เวห์​ตรัส​แก่​อับ​ราม​ว่า "เจ้า​จง​ออก​จาก​ดิน​แดน​ของ​เจ้า จาก​ญาติ​พี่​น้อง​ของ​เจ้า จาก​บ้าน​บิดา​ของ​เจ้า ไป​ยัง​ดิน​แดน​ที่​เรา​จะ​สำแดง​แก่​เจ้า"

  • 07 God’s promise to Abram S.18.jpg
    ปฐมกาล 15:5 พระ​องค์​จึง​พา​อับ​ราม​ออก​มา​ข้าง​นอก​แล้ว​ตรัส​ว่า“มอง​ดู​ฟ้า​สิ ถ้า​เจ้า​สามารถ​นับ​ดาว​ทั้ง​หลาย​ได้ ก็​นับ​ไป” แล้ว​พระ​องค์​ตรัส​กับ​ท่าน​ว่า “เชื้อ​สาย​ของ​เจ้า...

  • 08 Keeping the promise S.18.jpg
    ปฐมกาล 21:6 นาง​ซาราห์​กล่าว​ว่า “พระ​เจ้า​ทรง​ทำ​ให้​ฉัน​หัวเราะ ทุก​คน​ที่​ฟัง​จะ​พลอย​หัวเราะ​ด้วย”

  • 09 Not alone Seite 13.jpg
    ปฐมกาล 28:16 ยาโคบ​ตื่น​ขึ้น​จาก​หลับ​ก็​พูด​ว่า “พระ​ยาห์​เวห์​ทรง​อยู่ ณ ที่​นี้​แน่​ที​เดียว แต่​ข้า​เอง​ไม่​รู้”

  • 10.jpg
    ปฐมกาล 33:11 ข้าพ​เจ้า​ขอ​ท่าน​รับ​ของ​ขวัญ​ที่​นำ​มา​ให้​ท่าน เพราะ​พระ​เจ้า​ทรง​กรุณา​ข้าพ​เจ้า​และ​ข้าพ​เจ้า​ก็​มี​พอ​เพียง​แล้ว” ท่าน​อ้อน​วอน​เอ​ซาว เขา​จึง​รับ​ไว้

 

ใคร่ครวญ: ความท้าทายนี้มีความหมายอย่างไรในปัจจุบัน

อับราฮัมและยาโคบออกผจญภัยโดยไม่รู้ว่าจะไปไหนหรือจะไปเจอใครระหว่างทาง คงมีบางเวลาที่ดูเหมือนพระเจ้าทรงอยู่ใกล้มาก และบางเวลาที่ดูเหมือนพระองค์ทรงอยู่ห่างไกล

 

แม้ (โดยปกติ) พระเจ้าจะไม่ทรงขอให้ลูกของพระองค์ออกเดินทางไปยังดินแดนที่ไม่รู้จัก พระองค์ทรงเชิญเราทุกคนให้ผจญภัยไปกับการได้อยู่กับพระองค์ แม้พระองค์จะทรงสัญญาว่าจะทรงอยู่กับเรา แต่พระองค์มักไม่ค่อยให้เรารู้ว่าเราจะเจออะไรบ้าง ให้แบ่งปันประสบการณ์การได้อยู่กับพระเจ้าของคุณเอง สัตย์ซื่อกับความรู้สึกตื่นเต้นและไม่แน่ใจ (คุณอาจจะวาด "แผนที่" ชีวิตขณะที่คุยกัน หนุนใจให้เด็กที่คุณเป็นโค้ชพูดเรื่องการผจญภัยของเขาเองกับพระเจ้า และความรู้สึกที่ได้จากประสบการณ์นั้น)

 

กุญแจของความท้าทายนี้ คือการวางใจว่าพระเจ้าทรงอยู่กับเรา แม้ในเวลาที่ดูเหมือนพระองค์ไม่ทรงอยู่ และพระองค์ทรงทำการแทนเราและเพื่อผลดีของเรา

 

ไขข้อข้องใจ: คำถามที่เด็กๆ อาจถามเกี่ยวกับความท้าทายนี้

 ทูตสวรรค์

คุณอาจคุยกับเด็กว่า พวกเขาคิดว่า ทุกวันนี้พระเจ้ายังคงทรงใช้ทูตสวรรค์ส่งสารหรือไม่ อ่านสดุดี 34:7 ทูตสวรรค์อยู่กับพวกเขาตอนนี้ไหม? เรื่องนี้ทำให้พวกเขารู้สึกอย่างไร?

 

 อับราฮัม อิสอัคและการถวายบูชา

รูปใน Big Bible Challenge หน้า 15-16 มีฉากหนึ่งจากปฐมกาล 22:1-9 ด้วย เรื่องนี้เด็กๆ มองไม่เหมือนกัน จึงไม่ได้ถูกนำมาเป็นเรื่องหลักในหนังสือ Big Bible Challenge แต่ก็ยังมีถ่ายทอดออกมาเป็นรูปในหน้าพับ ซึ่งจะทำให้เกิดหัวข้อที่คุณสามารถพูดคุยกับเด็กได้

 

เรื่องราวของอิสอัคที่ถูกพาไปภูเขาโมริยาห์เพื่อเป็นเครื่องบูชาถวายแด่พระเจ้าเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ครอบครัวของอับราฮัม อับราฮัมทำตามที่พระเจ้าสั่ง แต่ในนาทีสุดท้าย พระเจ้าทรงช่วยกู้อิสอัคและอับราฮัม และจัดเตรียมแกะไว้เป็นเครื่องบูชาแทน สำหรับผู้ใหญ่ นี่เป็นเรื่องราวที่ทำให้เห็นภาพการไถ่ของพระคริสต์ได้อย่างทรงพลัง คือเมื่อพระเมษโปดกมารับโทษแทนเรา

 

โปรดระวังว่าเด็กบางคนอาจสับสนหรือโกรธเมื่อได้ยินเรื่องนี้

• พระเจ้าทรงโหดร้ายหรือไม่?

• อับราฮัมเป็นพ่อที่ไม่ดีหรือไม่ ที่เตรียมลูกชายเป็นเครื่องบูชา?

• อิสอัคจะรู้สึกอย่างไรเมื่อเขารู้ว่าพระเจ้าทรงสั่งให้พ่อฆ่าเขา?

 

รับฟังคำถามเหล่านี้และรับรู้ว่าในพระคัมภีร์ก็มีบางเรื่องที่ยากจะเข้าใจ ชี้ให้เห็นว่าพระเจ้าทรงมีแผนการอื่น (แกะตัวผู้) เตรียมไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ย้ำกับเด็กว่า เรารู้แน่ๆ จากพระคัมภีร์ทั้งเล่มว่า พระเจ้าไม่ได้ทรงโหดร้าย และพระองค์ทรงเห็นแก่ประโยชน์ของประชากรของพระองค์เสมอ พระองค์ทรงอวยพรอับราฮัมและอิสอัคไม่เปลี่ยนแปลง

 

(หรือจะอธิบายว่า นี่เป็นอีกวิธีหนึ่งที่พระเจ้าทรงสำแดงแก่ครอบครัวของพระองค์ว่า พระองค์ทรงไม่เหมือนพระอื่นๆ ที่ชนชาติรอบๆ กราบไหว้ เพราะพวกเขาต้องถวายเด็กเป็นเครื่องบูชาจริงๆ)

 


คุย: กับพระเจ้า

พระเจ้าทรงสัญญากับอับราม เป็นพระสัญญาที่พระเจ้าทรงรักษาตลอดหลายชั่วอายุคนถัดมา ช่วยเด็กของคุณให้เขียนลำดับวงศ์ตระกูลอย่างง่าย ที่มีปู่ย่าตายาย พ่อแม่ พี่น้อง (ลุงป้าน้าอา ลูกพี่ลูกน้องด้วยก็ได้) ใส่คนที่เด็กมองว่าเป็น "ครอบครัว" ด้วย เช่น เพื่อน สัตว์เลี้ยง หรือแม้แต่ของเล่น

 

อ่านพระสัญญาของพระเจ้าต่อยาโคบในปฐมกาล 28:15 อีกครั้ง ทบทวนว่าพระเยซูทรงสัญญาทำนองเดียวกันกับสาวกของพระองค์ ก่อนที่พระองค์จะเสด็จขึ้นสวรรค์อย่างไร (มัทธิว 28:20)

 

หนุนใจในเด็กอธิษฐานเผื่อทุกคนในลำดับวงศ์ตระกูล ทูลขอให้พระเจ้าทรงอวยพรพวกเขาและสถิตกับพวกเขาในทุกที่ที่ไป จบด้วยการขอบพระคุณพระเจ้าที่ทรงรักษาพระสัญญา

 

เสนอแนะให้เด็กเก็บลำดับวงศ์ตระกูลนี้ไว้ใกล้ที่นอน เพื่อพวกเขาจะได้อธิษฐานเพื่อสมาชิกในครอบครัววันละคนทุกวัน