ความท้าทาย 1 พระเจ้าทรงสร้างโลก
ในความท้าทายนี้ คุณจะได้รู้จักหัวข้อหลักๆ ของพระคัมภีร์หลายหัวข้อ ตัวอย่างเช่น เราจะได้เข้าใจว่า
- พระเจ้าทรงมีอยู่จริง พระองค์ทรงเป็นผู้สร้างทุกสิ่งและโลกที่พระองค์ทรงสร้างนั้นดี
- มนุษย์คือผลงานชิ้นเอกในบรรดาสิ่งทรงสร้าง มนุษย์ถูกสร้างตามพระฉายของพระเจ้าให้มีความสัมพันธ์กับพระองค์และเป็นตัวแทนของพระองค์บนโลก
- ความบาป (การกบฎต่อพระเจ้า การใช้ชีวิตเหมือนพระเจ้าไม่สำคัญ) เข้ามาในโลก ทำให้โลกวุ่นวาย
- พระเจ้าทรงมีแผนการแสนพิเศษเพื่อจะช่วยเราให้รอดและนำเรากลับคืนสู่ความสัมพันธ์อันดีกับพระองค์
เออร์เนสต์ ลูคัส (ผู้เขียน Encounter with God ฉบับเมษายน-มิถุนายน 2002 หน้า 13-14) ให้แนวคิดว่า แบบแผนใน 11 บทแรกของพระคัมภีร์สามารถสรุปได้เป็นวลีที่ว่า "ความบาปแพร่ไป พระคุณแพร่ไป" การไม่เชื่อฟังของอาดัมและเอวา (บทที่ 3) ตามมาด้วยการฆาตกรรมอาเบล (บทที่ 4) น้ำท่วมที่ชำระล้างโลก (บทที่ 6-9) และความหยิ่งผยองของหอบาเบล (บทที่ 11)
แต่ทุกการกระทำความบาปก็มีการตอบสนองด้วยพระคุณ พระเจ้าทรงให้เสื้อผ้าอาดัมและเอวาสวมใส่ คาอินได้เครื่องหมายที่ปกป้องชีวิตเขา โนอาห์และครอบครัวรอดจากน้ำท่วม และหลังจากหอบาเบลก็มีการทรงเรียกอับราฮัม ซึ่งเป็นการเริ่มต้นแผนการช่วยให้รอดของพระเจ้า ที่จะจบลงด้วยการทรงส่งพระเยซู พระบุตรของพระองค์มา หลังจากหายนะจากการกบฎของมนุษย์แล้ว พระเจ้าก็ทรงทำงานเพื่อนำการฟื้นฟู
เชื่อมโยง: เรื่องราวทั้งห้าในความท้าทายนี้
เราอยู่ในโลกที่สับสน วุ่นวาย และบ่อยครั้งก็มีแต่ความรุนแรง! แม้รอบตัวเราจะเจอแต่การทำลายล้างและความขาดแคลนไม่สิ้นสุด แต่เราก็ยังได้มีประสบการณ์กับความอัศจรรย์ของการทรงสร้าง ได้ชื่นชนยินดีกับการมีสังคมและมีความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์
คุณจะช่วยเด็กที่คุณเป็นโค้ชให้อ่านและเข้าใจพระคัมภีร์ และมีส่วนกับโลกใบนี้ที่เต็มไปด้วยประสบการณ์แปลกๆ ได้อย่างไร? คุณจะเริ่มต้นที่ไหน?
ปฐมกาล 1-11 เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี! ด้วยคำเพียงไม่กี่คำ ปฐมกาลบทที่ 1-11 และบทอ่านที่เราเลือกมานี้จะให้แง่มุมที่ได้เห็นทั้งประสบการณ์ที่ดีและไม่ดีของมนุษย์
เรื่องหลักที่อยู่ในหนังสือ Big Bible Challenge (พระสัญญาต่อโนอาห์) เป็นเรื่องราวแห่งความหวัง คุณจะเริ่มจากบทนั้นก็ได้ หรือจะดำเนินเรื่องไปตามลำดับเวลาแทนที่จะเริ่มจากเรื่องหลักก็ได้ ไม่ว่าคุณจะเลือกแบบไหน อย่า "เน้น" แต่เรื่องการไม่เชื่อฟังและผลเสียที่ตามมาจนมองข้ามความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อลูกที่หลงผิดไป ความรักของพระเจ้านี้ คือความรักที่อยากให้ประชากรของพระองค์ปลอดภัย มีชีวิตที่สมบูรณ์และกลับมาหาความรักของพระองค์ เป็นใจความหลักที่ปรากฎในพระคัมภีร์ตลอดทั้งเล่ม นี่คือเหตุผลที่ทำให้เรื่องหลักเป็นเรื่องสำคัญ นี่คือเหตุผลที่พระเยซูเสด็จมา
เมื่อคุณอ่านพระคัมภีร์กับเด็ก อย่าลืมข้อเท็จจริงที่ว่า คุณกำลังอ่านเรื่องราวของพระเจ้าอยู่ พระคัมภีร์ไม่ได้เริ่มต้นที่เรา แต่เริ่มต้นที่พระเจ้า (ในปฐมกาลพระเจ้า...) ตั้งแต่เริ่มแรก เราไม่มีข้อสงสัยเลยว่า นี่คือ "เรื่องของพระองค์" และในพระคัมภีร์ตลอดทั้งเล่ม พระเจ้าทรงเชิญเราทุกคน ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ให้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่พระเจ้าทรงเปิดเผยนี้ พระเจ้าตรัสว่า "จงมีความสว่าง" จงอธิษฐานทูลขอให้ความสว่างนี้กระจ่างแก่คุณและเด็กของคุณระหว่างที่คุณทั้งสองคนเดินทางผจญภัยเพื่อรู้จักพระเจ้าองค์นี้ด้วยกัน!
-
ปฐมกาล 1:31ก พระเจ้าทอดพระเนตรสิ่งทั้งปวงที่พระองค์ทรงสร้างไว้ดูสิ ทรงเห็นว่าดียิ่งนัก
-
ปฐมกาล 3:9 พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงเรียกชายนั้นและตรัสถามเขาว่า “เจ้าอยู่ที่ไหน?”
-
ปฐมกาล 7:1 แล้วพระยาห์เวห์ตรัสแก่โนอาห์ว่า “เจ้าและครัวเรือนทั้งหมดของเจ้าจงเข้าไปในเรือ เพราะในชั่วอายุคนรุ่นนี้เราเห็นเจ้าเป็นผู้ชอบธรรมต่อ...
-
ปฐมกาล 9:16 เมื่อมีรุ้งที่เมฆ เราจะดูรุ้งนั้นเพื่อระลึกถึงพันธสัญญานิรันดร์ระหว่างพระเจ้ากับสิ่งมีชีวิตและสัตว์ทั้งปวงซึ่งอยู่บนแผ่นดิน
-
ปฐมกาล 11:9 เหตุฉะนี้จึงเรียกเมืองนั้นว่าบาเบล เพราะว่าที่นั่นพระยาห์เวห์ทรงทำให้ภาษาของทั้งโลกวุ่นวายไป และพระยาห์เวห์ทรงทำให้พวกเขากระจัดกระจา...
ใคร่ครวญ: ความท้าทายนี้มีความหมายอย่างไรในปัจจุบัน
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ "ความบาป" จะเป็นความคิดที่เป็นรูปธรรมเกินไปสำหรับเด็กๆ (หรือแม้แต่ผู้ใหญ่) ความบาปคือสิ่งที่แทบจะไม่เกี่ยวอะไรกับเราที่เป็น "คนดี" แล้วก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะเรียกเฉพาะเรื่องรุนแรง เช่น ฆาตกรรม ว่าเป็น "บาป" แต่ถ้านั่นคือมุมมองของเรา ปฐมกาลบทที่ 1-11 นี้ก็จะฟังไม่ขึ้นในโลกปัจจุบัน
สิ่งที่อาดัมและเอวาทำ ฟังดูไม่เลวร้ายเท่าไร พวกเขาแค่กินผลไม้ที่ถูกห้ามไม่ให้กิน แล้วก็พยายามโทษคนอื่น แต่ในความเป็นจริง พวกเขากำลังละเลยการดำเนินชีวิตตามแบบพระเจ้า และเลือกทางเดินตรงกันข้ามที่ดูเหมือนน่าสนใจกว่า นั่นคือสาเหตุที่เรื่องนี้สำคัญมาก เช่นเดียวกัน ปัญหาเรื่องบาเบลไม่ใช่เพราะว่าผู้คนอยากจะสร้างหอคอย แต่เพราะความเย่อหยิ่งที่คิดว่าพวกเขาสามารถควบคุมชะตาชีวิตของตัวเองได้
ทุกวันนี้เราก็ทำอย่างเดียวกัน คุยกันเรื่องปัญหาต่างๆ ที่เราเจอเพราะคำโกหก "เพื่อสิ่งดี" การกล่าวโทษคนอื่น การอยากได้สิ่งที่เราไม่มี และอีกมากมาย ทั้งหมดนี้ล้วนแต่มีผลตามมาทั้งสิ้น
แต่พระเจ้าทรงรักเรา เราไม่ต้องเป็นคนสมบูรณ์พร้อม เช่นเดียวกับโนอาห์ พระเจ้าทรงอยู่ข้างคนที่ต้องการดำเนินตามทางของพระองค์
คุณสามารถวาดหรือทำสายรุ้ง และบันทึกลงไปบนนั้นว่า ตลอดทั้ง 20 ความท้าทาย พระเจ้าทรงสัญญาอะไรกับประชากรของพระองค์บ้าง
ไขข้อข้องใจ: คำถามที่เด็กๆ อาจถามเกี่ยวกับความท้าทายนี้
ทำไมพระเจ้าจึงสร้างต้นไม้ถ้าพระองค์ไม่อยากให้อาดัมกับเอวากินจากผลของมัน?
นี่เป็นเรื่องยากสำหรับเด็ก - และสำหรับผู้ใหญ่ด้วย! พระเจ้าทรงทำให้ทุกสิ่ง "ดีมาก" รวมทั้งต้นไม้ด้วย ดังนั้น ต้นไม้จึงไม่ผิดอะไร ปัญหาคือการไม่เชื่อฟัง ดังนั้นคำถามจึงกลายเป็น พระเจ้าทรงล่ออาดัมและเอวาให้หลงด้วยการตั้งกฎหรือ? คำตอบอยู่ในพระลักษณะของพระเจ้า พระองค์ไม่ได้ทรงพยายามล่อลวงอาดัมและเอวา เพราะนั่นไม่ใช่พระลักษณะของพระองค์ พระองค์ไม่ได้ทรงพยายามล่อลวงเราเช่นกัน แต่พระองค์ทรงต้องการให้พวกเขารักพระองค์เพราะพวกเขาเลือกที่จะรักพระองค์ และวิธีเดียวที่จะรู้ได้ว่า พวกเขาเลือกรักพระองค์หรือไม่ก็คือ พวกเขาเลือกที่จะเชื่อฟังพระองค์หรือไม่ พระเจ้าไม่ได้ทรงต้องการหุ่นเชิดที่ไม่มีจิตใจ แต่ต้องการมนุษย์ที่รักและติดตามพระองค์ วันนี้พระองค์ก็ทรงต้องการอย่างเดียวกัน! พระเยซูตรัสว่า "ถ้าพวกท่านรักเรา ท่านก็จะประพฤติตามบัญญัติของเรา" (ยอห์น 14:15)
ทำไมพระเจ้าตรัสว่า มนุษย์จะตายถ้ากินผลไม้นั้น แต่อาดัมกับเอวาไม่ตาย?
อาดัมกับเอวาไม่ได้ตายในวันที่พวกเขากินผลไม้ แต่เมื่อพระเจ้าทรงสร้างพวกเขาขึ้นมาครั้งแรก พระองค์ทรงมีแผนการให้พวกเขามีชีวิตนิรันดร์ จากวินาทีที่พวกเขาไม่เชื่อฟังพระเจ้า พวกเขาก็ถูกกำหนดว่าต้องตาย ความตายและโรคภัยไข้เจ็บไม่เคยอยู่ในพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับโลกที่แสนดีนี้
งู
ตลอดพระคัมภีร์ทั้งเล่ม พระเจ้าทรงมีศัตรูอยู่อย่างหนึ่ง คือ มาร หรือ ซาตาน พระเจ้าทรงประเสริฐ แต่ซาตานนั้นตรงกันข้าม มันต้องการล่อลวงผู้คนไม่ให้ติดตามพระเจ้า มันฉลาดมาก มันทำให้สิ่งที่เรารู้ว่าไม่ควรทำกลายเป็นสิ่งที่น่าทำหรือน่าสนุกอย่างยิ่ง
คุย: กับพระเจ้า
พระเจ้าทรงสร้างโลกและสรรพสิ่งในโลก ให้เราใช้เวลาสักครู่ชื่นชมสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง!
พาเด็กๆ ไปเดินเล่น ดูทุกสิ่งรอบตัวและผลัดกันพูด "ขอบคุณ" พระเจ้าสำหรับสิ่งต่างๆ ที่พระองค์ทรงสร้าง เมื่อเดินเสร็จแล้ว ให้ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงรักมนุษย์ตั้งแต่โลกเริ่ม
ถ้าคุณสามารถไปข้างนอกได้ ให้มองดูต้นไม้ สัตว์ ผู้คนและอื่นๆ ถ้าไปเดินข้างนอกไม่ได้ ให้มองออกนอกหน้าต่างแทน หรือเดินรอบๆ บ้าน หรืออาคารที่คุณนัดเจอกัน และดูว่าคุณขอบคุณพระเจ้าสำหรับสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างได้กี่สิ่ง