ความท้าทาย 4 โมเสส
ความท้าทาย 3 จบลงตรงที่โยเซฟและครอบครัวได้คืนดีกัน และอาศัยอยู่ในอียิปต์อย่างมีความสุขและสุขสบาย หลายปีหลังจากนั้น สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปสำหรับชาวอิสราเอล กษัตริย์ (ฟาโรห์) องค์ใหม่ขึ้นครองอำนาจและเห็นว่าชาวอิสราเอลเป็นภัยต่อความมั่งคงของอียิปต์ ทางแก้ของเขาคือ ใช้ประโยชน์จากจำนวนประชากรอิสราเอลที่มีมากและบังคับให้ทุกคนเป็นทาส ความท้าทาย 4 พูดถึงครอบครัวทาสชาวอิสราเอลครอบครัวหนึ่งกับลูกชายของพวกเขาคือ โมเสส และเล่าเรื่องวิธีการอันน่าตื่นเต้นที่พระเจ้าทรงใช้ประทานอิสรภาพให้กับชาวอิสราเอล
โมเสสที่เป็นเด็กทารกชาวอิสราเอล ได้รับการช่วยเหลืออย่างปาฏิหาริย์จากพระราชธิดาองค์หนึ่งของฟาโรห์ การที่เขาเติบโตมาในวังของอียิปต์ ทำให้เขาวู่วามใช้กำลังหวังปลดปล่อยอิสราเอลจากการเป็นทาส จนเขาต้องหนีออกนอกประเทศ
ชาวอิสราเอลยังคงอยู่ในอียิปต์และพวกเขาคงสงสัยว่าพระเจ้าอยู่ที่ไหนและทำอะไรอยู่ แต่พระองค์ทรงเห็นความทุกข์ยากของพวกเขา พระองค์ทรงพบกับโมเสส ทรงเปิดเผยให้เห็นพระลักษณะของพระองค์ (หลักๆ ก็คือ พระองค์ทรงลี้ลับเกินความเข้าใจของมนุษย์) และทรงมอบหมายงานให้โมเสส โมเสสอาจดูเหมือนไม่ใช่คนที่เหมาะกับงานนี้ ตัวเขาเองก็คิดว่าเขาไม่เหมาะ แต่พระเจ้าทรงทำงานผ่านเขา
ความรอดของพระเจ้ามีความตายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เทศกาลปัสกาเป็นเทศกาลหลักของอิสราเอล เพื่อระลึกถึงการปลดปล่อยออกจากอียิปต์ แต่เทศกาลนี้ยังมีความหมายยิ่งใหญ่กว่านั้นเมื่อพระเยซูทรงเป็นปัสกาสำหรับเรา (1 โครินธ์ 5:7) เมื่อพระเจ้าทรงปลดปล่อยคนของพระองค์จากการเป็นทาส พระองค์ทรงสำแดงให้เห็นว่า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าที่ช่วยกู้ และยังเป็นการชี้ให้เห็นการช่วยกู้ครั้งสำคัญที่สุดของพระองค์ในอนาคตด้วย
เชื่อมโยง: เรื่องราวทั้งห้าในความท้าทายนี้
เรื่องหลักในความท้าทาย 4 คือเรื่องสุดท้ายในชุดนี้ "ข้ามทะเลแดง" คุณอาจเริ่มความท้าทายที่ 4 ด้วยเรื่องที่เป็นจุดสำคัญนี้แล้วย้อนกลับไปเหตุการณ์ก่อนหน้าเพื่อดูว่าอะไรนำมาสู่เหตุการณ์สุดท้ายอันน่าตื่นเต้นหรือเริ่มจาก "กำเนิดโมเสส" แล้วผจญภัยตามลำดับเรื่องก็ได้ ไม่ว่าคุณจะเลือกแบบไหน เนื้อหาก็ยังเหมือนเดิมคือ เมื่อพระเจ้าตัดสินพระทัยจะทำสิ่งใด ไม่มีอะไรหยุดพระองค์ได้!
ตอนเริ่มต้นของความท้าทายนี้ ชาวอิสราเอล ประชากรของพระเจ้าอาศัยอยู่ในอียิปต์ แต่พวกเขาไม่ได้เป็นอิสระหรือมีความสุขอีกต่อไป พวกเขาเป็นทาสและฟาโรห์ กษัตริย์แห่งอียิปต์บังคับให้พวกเขาทำงานหนักและปฏิบัติกับพวกเขาอย่างโหดร้าย พระราชาอยากให้พวกเขาทำงานหนักให้พระองค์ แต่ก็กลัวเพราะชาวอิสราเอลมีจำนวนมาก เมื่อเริ่มเรื่อง พระราชาสั่งให้เอาเด็กทารกชาวอิสราเอลทุกคนไปทิ้งในแม่น้ำ!
คำว่า "อพยพ" หมายถึง "ทางออก" หรือ "การออกเดินทาง" และเมื่อมาถึงตอนสุดท้ายของความท้าทาย 4 คุณจะได้รู้ว่าใครออกเดินทาง พวกเขามาจากไหน พวกเขาจะไปที่ไหน ใครพาพวกเขาไป และใครพยายามจะห้ามพวกเขา
-
อพยพ 2:10ข พระราชธิดาของฟาโรห์ประทานนามให้ว่า โมเสส ตรัสว่า “เพราะเราได้ฉุดขึ้นมาจากน้ำ”
-
อพยพ 3:10 และบัดนี้จงไปเถิด เราจะใช้เจ้าไปเข้าเฝ้าฟาโรห์ เพื่อจะได้พาประชากรของเราคือชนชาติอิสราเอล ออกจากอียิปต์
-
อพยพ 11:1ก พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า “เราจะนำภัยพิบัติมาสู่ฟาโรห์และอียิปต์อีกอย่างเดียว หลังจากนั้นฟาโรห์จะปล่อยพวกเจ้าไปจากที่นี่”
-
อพยพ 12:26, 27ข เมื่อลูกหลานของพวกท่านถามว่า ‘พิธีนี้หมายความว่าอะไร?’ พวกท่านจงตอบว่า ‘เป็นการถวายสัตวบูชาปัสกาแด่พระยาห์เวห์ผู้ทรงผ่านเว้นบ้านของชนชาติอิสราเอลในอียิปต์’
-
อพยพ 14:13 โมเสสกล่าวกับประชากรว่า “อย่ากลัวเลย จงยืนนิ่งอยู่ คอยดูความรอดจากพระยาห์เวห์ ซึ่งทรงทำเพื่อพวกท่านในวันนี้ เพราะคนอียิปต์ที่เห็นในวันนี้ พวกท่านจะไม่ได้เห็นอีก...
ใคร่ครวญ: ความท้าทายนี้มีความหมายอย่างไรในปัจจุบัน
เรื่องราวของโมเสสเป็นเรื่องเล่าที่น่าตื่นเต้น มีตัวละครที่โดดเด่นและเหตุการณ์ที่ระทึกใจ ใช้เรื่องราวในพระคัมภีร์ตอนนี้ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด เด็กๆ ชอบเรื่องเล่าและการผจญภัย ซึ่งมีอยู่ในความท้าทายนี้เต็มไปหมด ถ้าเด็กชอบอ่านพระคัมภีร์ในความท้าทาย 4 ก็ให้พวกเขาดูพระธรรมที่ยาวขึ้นในพระคัมภีร์และอ่านเรื่องราวต่างๆ เพิ่มเติมด้วยกัน อ่านออกเสียงและใช้เสียงต่างๆ กันสำหรับแต่ละบุคคล ทำเสียงประกอบหรือเดินไปรอบห้อง รอบอาคาร เมื่อเหตุการณ์ในเรื่องเปลี่ยนจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง
ความท้าทาย 4 เป็นเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้าทรงช่วยกู้คนของพระองค์จากการเป็นทาสในอียิปต์ แต่ละตอนในเรื่องแสดงให้เห็นการที่พระเจ้าทรงช่วยคนของพระองค์ด้วยวิธีต่างๆ กัน เหตุการณ์การช่วยกู้ทั้งหมดนี้มารวมกันในเรื่องหลักที่โมเสสและประชาชน "ข้ามทะเลแดง" ไปสู่อิสรภาพ ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าและความยินดีของประชาชนที่ได้รับการช่วยเหลือเป็นเพียงการลิ้มรสสิ่งที่จะเกิดขึ้นในพระคัมภีร์ใหม่ เมื่อเด็กๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับพระเยซู ผู้ทรงเป็นแผนการช่วยกู้สุดท้ายของพระเจ้า
เรื่องราวในอพยพเป็นเรื่องที่ตื่นต้น แต่ก็ยังไม่ง่ายที่จะใช้กับเด็ก ในเรื่องมีบางส่วนที่ดูจะเกินไปสำหรับสายตาของมนุษย์สมัยศตวรรษที่ 21 อย่างเราและอาจทำให้เกิดคำถามยากๆ แต่อย่าคาดหวังให้เด็กๆ มีปฏิกิริยาเช่นเดียวกับคุณเพราะเด็กมักยอมรับวิถีทางของพระเจ้าได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ อย่างไรก็ดี ภาพของพระเจ้าที่ทรงได้ยินปัญหาและความลำบากของประชากรของพระองค์ และยื่นพระหัตถ์มาช่วยกู้พวกเขา เป็นภาพที่ทุกคนรับรู้ได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เรื่องราวทั้งหมดเต็มไปด้วยการช่วยกู้ ซึ่งหลายเหตุการณ์ก็เกินประสบการณ์ของเด็กไปมาก นี่จะทำให้เด็กสนใจและช่วยให้พวกเขาคิดเกี่ยวกับพระเจ้าและสิ่งที่พระองค์ทรงต้องการจะตรัสกับพวกเขา
เด็กคุ้นเคยกับความรู้สึกที่สิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามต้องการ พวกเขามักไม่มีอำนาจควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต บางครั้งก็ดูเหมือนว่า แม้ทุกสิ่งจะเป็นไปตามต้องการ ผลลัพธ์สุดท้ายก็ไม่เป็นอย่างใจ เมื่ออ่านเรื่องราวอพยพมากขึ้น ช่วยให้พวกเขาคิดว่าพระเจ้าทรงมีพลังอำนาจมากเพียงไร และพระองค์ทรงรักษาพระสัญญาของพระองค์เสมอ แม้ในเวลาที่สิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามที่เราต้องการ
ไขข้อข้องใจ: คำถามที่เด็กๆ อาจถามเกี่ยวกับความท้าทายนี้
โมเสสฆ่าคน
พระเจ้าทรงทราบว่าคนของพระองค์กำลังลำบาก และมีแผนการช่วยกู้พวกเขาและประทานอิสรภาพจากการเป็นทาสให้ โมเสสจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการนั้นและพระเจ้าทรงรักษาเขาให้ปลอดภัย ไม่เพียงแค่ช่วยเขาจากการถูกโยนทิ้งลงแม่น้ำโดยให้อาศัยในวังและเรียนหนังสือเท่านั้น เมื่อโมเสสโตขึ้น โมเสสพยายามปลดปล่อยคนของพระเจ้า แต่เขาไม่ได้ทำตามวิธีของพระเจ้า
อธิบายว่าโมเสสไปอยู่ในวังฟาโรห์ เขาถูกเลี้ยงมาเป็นคนอียิปต์แต่เขาไม่เคยลืมว่าเขาเป็นคนอิสราเอล ชาวอียิปต์ปฏิบัติกับทาสไม่ดีและวันหนึ่งโมเสสพยายามจะช่วย เขาพยายามหยุดชาวอียิปต์ไม่ให้ตีทาส แต่กลับจบลงด้วยการฆ่าชาวอียิปต์คนนั้น! โมเสสพยายามปลดปล่อยคนของพระเจ้าจากการเป็นทาสและกลับทำสิ่งที่ผิดมากเสียเอง เขาหนีไปและใช้ชีวิตหลายปีทำงานเป็นคนเลี้ยงแกะในทะเลทรายห่างไกลจากอียิปต์
ไม่จำเป็นต้องพยายามหาข้อแก้ตัวให้โมเสส เขาทำผิดและเขาก็รับโทษ ถูกเนรเทศจากบ้านและครอบครัวเป็นเวลาหลายปี ชีวิตของโมเสสซับซ้อนแต่ก็ไม่ใช่เหตุผลให้เขาทำสิ่งที่เขาทำ เขาก็รู้ว่าเขาทำผิดด้วย ข่าวดีสำหรับโมเสสและสำหรับเราคือ พระเจ้ายังสามารถใช้คนที่ผิดพลาดหรือคนที่ทำผิดได้ ไม่ได้หมายความว่า การที่โมเสสฆ่าคนไม่เป็นไร แต่หมายความว่าแผนการของพระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าความผิดพลาดของเรา
การประหารบุตรหัวปี
พระวจนะของพระเจ้าไม่เสียเปล่า พระองค์ทรงทำสิ่งที่พระองค์ตรัสว่าจะทำ ถ้าคุณหรือเด็กเป็นลูกคนแรก ภัยพิบัติสุดท้ายอาจทำให้คุณกลัวเป็นพิเศษ ภัยพิบัติแต่ละอย่างเลวร้ายลงเรื่อยๆ และนี่คือแย่ที่สุดแล้ว นี่เป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายจริงๆ และเราไม่จำเป็นต้องพยายามปกปิดหรือบิดเบือนความจริงข้อนี้ ชาวอียิปต์ (และสัตว์) เดือดร้อนเพราะผู้นำไม่ทำตามที่พระเจ้าตรัส เขามีโอกาสหลายครั้งแต่ก็ยังไม่ยอม ความตายของลูกคนโต รวมทั้งลูกชายของฟาโรห์ด้วย คือสิ่งที่ในที่สุดก็โน้มน้าวฟาโรห์ให้ปล่อยคนของพระเจ้าไปได้ หลังจากที่ไม่สนใจหมายสำคัญอื่นๆ กระนั้น เขาก็ยังเปลี่ยนใจภายหลัง
คุย: กับพระเจ้า
โมเสสและคนของพระเจ้าได้พบว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้ปกป้องพวกเขา พระองค์ทรงมีอำนาจปกป้องพวกเขาให้ปลอดภัยและช่วยกู้พวกเขาจากปัญหาและอันตราย
เชื้อเชิญเด็กให้วาดสถานที่หรือสถานการณ์ที่พวกเขาต้องการให้พระเจ้าปกป้อง อาจจะเป็นที่โรงเรียน เมื่อพวกเขาขี่จักรยานหรือต้องทำสิ่งที่ไม่ชอบ เมื่อเสร็จแล้ว ขอให้พวกเขาดูรูปที่วาดขณะที่คุณอธิษฐานขอให้พระเจ้าทรงปกป้องพวกเขาในสถานที่หรือสถานการณ์นั้น เสนอแนะให้เด็กวางรูปไว้ใกล้เตียงเพื่อพวกเขาจะได้เห็นบ่อยๆ และจำได้ว่าพระเจ้าจะทรงปกป้องพวกเขา