ความท้าทาย 17 เราเป็นคนของพระเจ้า
จดหมายของเปาโลไม่ได้เขียนขึ้นแบบไร้เป้าหมาย แต่เขียนอย่างเจาะจงถึงคริสตจักรที่ท่านรักและรู้จักเป็นอย่างดี จดหมายส่วนใหญ่เขียนเพื่อต่อต้านคำสอนเท็จ เพื่อหนุนใจผู้เชื่อใหม่ หรือเพื่อแก้ปัญหาในเรื่องความประพฤติและความสัมพันธ์ คำตอบของท่าน คือให้มุ่งความสนใจไปที่พระเยซูและสิ่งที่พระองค์ได้กระทำ
โรม 8 และโคโลสี 1 ได้บรรยายถึงตัวตนและพระราขกิจของพระเยซูไว้อย่างน่าสนใจ โรม 8 ย้ำให้เรามั่นใจว่าจากนี้ไปจะไม่มีสิ่งใดมาทำให้เราขาดจากความรักของพระเจ้าได้
ข้อเรียกร้องของการมีชีวิตที่โดดเด่น คือประเด็นที่ถูกอธิบายไว้อย่างชัดเจนในกาลาเทีย 5:16 – 6:10 เปาโลชักชวนผู้เชื่อให้ประพฤติตามรูปแบบพฤติกรรมบางอย่าง แต่ขณะเดียวกันท่านก็ทราบดีว่าเราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ดังที่กล่าวไว้ในโรม 8 แต่พระวิญญาณทรงกระทำกิจอยู่ภายในเรา เพื่อให้เรามีชีวิตที่เกิดผล
ในเวลาที่เราถูกข่มเหง เราสามารถรับรู้ได้ถึงการปกป้องของพระเจ้า (เอเฟซัส 6:10-20) เปาโลบอกอย่างชัดเจนว่ามีการต่อสู้เกิดขึ้นระหว่างพระเจ้ากับซาตาน ระหว่างความดีและความชั่ว การที่เราจะยืนหยัดต่อสู้กับการบั่นทอนคุณค่าของพระเจ้า เปาโลเน้นถึงความจำเป็นที่ต้องเตรียมตัวให้เข้มแข็ง ยึดมั่นในจุดยืนของเรา หนักแน่นมั่นคง ตื่นตัว และอธิษฐานในพระวิญญาณนี่คือสิ่งที่เราต้องใส่ใจ แม้เปาโลไม่ได้กล่าวถึงการการทำงานและหลักการของตรีเอกานุภาพอย่างชัดเจน แต่แนวคิดของท่านก็เต็มไปด้วยเรื่องของตรีเอกานุภาพ
ฟีลิปปี 4 เปาโลได้เปิดแผยถึงการค้นพบอย่างน่าอัศจรรย์ของท่านว่าเราสามารถมีสันติสุขในพระเจ้าได้ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหน ท่านทำได้อย่างไร? เราสามารถชื่นชมยินดีในสันติสุขนั้นได้ ด้วยการสรรเสริญพระเจ้าอย่างที่พระองค์เป็น ด้วยการทูลต่อพระเจ้าถึงสถานการณ์ของเรา และด้วยการหันจิตใจของเรามาคิดถึงสิ่งที่ดี การที่เปาโลเขียนจดหมายจากในคุกกำลังสื่อว่าท่านเขียนถ้อยคำเหล่านี้ด้วยความจริงใจ
ในเมืองโคโลสี มีความเสี่ยงว่าผู้เชื่อกำลังถูกล่อลวงให้หลงไปจากคำสอนที่ถูกต้องของความเชื่อใหม่ เปาโลจัดการกับเรื่องนี้ด้วยการกล่าวชื่นชมในความกระตือรือร้นของพวกเขา เมื่อได้เปิดใจรับข่าวประเสริฐของพระเยซูเป็นครั้งแรก และท่านกล่าวย้ำถึงแก่นแท้แห่งสาระของพระกิตติคุณ
ในบรรดาจดหมายเหล่านี้และฉบับอื่นๆ เปาโลไม่ลดละที่จะค้นหาความหมายของการสิ้นพระชนม์และการเป็นขึ้นมาของพระเยซูในเรื่องความเชื่อและการประพฤติ
เชื่อมโยง: เรื่องราวทั้งห้าในความท้าทายนี้
พระธรรมทั้งหมดในความท้าทายนี้มาจากจดหมายของเปาโลที่เขียนถึงคริสตจักรใหม่ที่เพิ่งตั้งได้ไม่นาน เปาโลยังไม่เคยได้พบกับสมาชิกในคริสตจักรเหล่านั้น ความจริงแล้วยังมีคริสตจักรอีกหลายแห่งที่เปาโลไม่เคยไปเยี่ยมเยียน แต่ท่านก็มีสายสัมพันธ์กับคริสตจักรแต่ละแห่ง และคริสตจักรทุกแห่งก็อยู่ในความห่วงใยของท่านเสมอ เปาโลอยากให้คริสเตียนเหล่านั้นได้เข้าใจถึงทุกสิ่งที่พระเจ้าได้กระทำเพื่อพวกเขาและได้ใกล้ชิดพระเยซูมากขึ้นทุกวัน
พระธรรมที่คัดมาทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเรื่องของการดำเนินชีวิตคริสเตียน และเปาโลได้สอดแทรกคำหนุนใจและคำตักเตือนไว้ด้วย ให้เริ่มอ่านจากโรมก่อน ตามด้วยโคโลสี กาลาเทีย แล้วปิดท้ายด้วยฟีลิปปี
-
โรม 8:31 ถ้าอย่างนั้น สิ่งเหล่านี้เราจะว่าอย่างไร? ถ้าพระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายเรา ใครจะขัดขวางเราได้?
-
กาลาเทีย 5:16 แต่ข้าพเจ้าขอบอกว่าจงดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณ แล้วท่านจะไม่สนองความต้องการของเนื้อหนัง
-
เอเฟซัส 6:10 สุดท้ายนี้ จงเข้มแข็งขึ้นในองค์พระผู้เป็นเจ้า และในอานุภาพอันทรงพลังของพระองค์
-
ฟีลิปปี 4:6 อย่ากระวนกระวายในสิ่งใดๆ เลย แต่จงทูลพระเจ้าให้ทรงทราบทุกสิ่งที่พวกท่านขอ โดยการอธิษฐานและการวิงวอน พร้อมกับการขอบพระคุณ
-
โคโลสี 1:22แต่บัดนี้พระเจ้าโปรดให้คืนดีกับพระองค์เองโดยความตายของพระกายที่เป็นเนื้อหนังของพระคริสต์ เพื่อจะถวายพวกท่านเป็นผู้บริสุทธิ์ ไร้มลทิน แ...
ใคร่ครวญ: ความท้าทายนี้มีความหมายอย่างไรในปัจจุบัน
แม้ว่าจดหมายของเปาโลจะถูกเขียนขึ้นเมื่อนานมาแล้ว ในยุคสมัยที่แตกต่างจากปัจจุบันในหลายๆ ด้าน แต่คำสอนของท่านก็ยังเป็นเรื่องที่เราจำเป็นต้องรู้ ประโยชน์ที่ได้จากการเป็นคริสเตียนก็ยังเหมือนเดิม และเรายังสรรเสริญพระเจ้าได้ในเรื่องนั้น ปัญหามากมายที่เราต้องเผชิญในปัจจุบันก็ยังเป็นปัญหาเดียวกัน และถ้อยคำที่ประกอบด้วยสติปัญญาของเปาโลได้เสริมความเข้าใจและช่วยให้เรามีชัยชนะเหนือสิ่งเหล่านั้น
เราสามารถรับการหนุนใจและคำชี้แนะอีกมากมายจากจดหมายของเปาโล
ไขข้อข้องใจ: คำถามที่เด็กๆ อาจถามเกี่ยวกับความท้าทายนี้
เพราะเหตุใดคนในสมัยก่อนจึงชอบเขียนจดหมายที่ยืดยาวน่าเบื่อ โดยไม่มีการแจ้งข่าวอะไรในนั้นเลย?
คนในสมัยก่อนก็เขียนจดหมายเพื่อแจ้งข่าวเหมือนกันนะ ที่จริงแล้ว จดหมายบางฉบับของเปาโลก็สอดแทรกข่าวสารบางอย่างที่ช่วยให้เรารู้จักชีวิตและมิตรสหายของท่านมากขึ้น แต่ว่าในเวลานั้น จดหมายที่เต็มไปด้วยข่าวสารกลับเป็นที่สนใจของคนเพียงบางกลุ่ม อาจเป็นเพราะว่าไม่ช้ามันก็จะถูกทิ้งไป จดหมายส่วนใหญ่ที่อยู่ในพระคัมภีร์ถูกเขียนขึ้นเพื่อใช้สอนและอธิบายให้ผู้อ่านได้รู้ว่าพระเจ้าทรงกระสิ่งใดเพื่อพวกเขาและรู้จักแนวทางการดำเนินชีวิตแบบที่พระเจ้าพอพระทัย เนื่องจากจดหมายเหล่านี้เต็มไปด้วยคำสอนที่สำคัญดังที่กล่าวไป จดหมายเหล่านี้จึงถูกเล่าขาน ถูกคัดลอก ถูกส่งต่อ และถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี เพื่อคนมากมายรวมถึงพวกเราจะได้ยินเรื่องของพระเจ้าด้วยเช่นกัน บางส่วนของจดหมายเหล่านี้อาจดูน่าเบื่อ ถ้าคุณรู้สึกว่าเป็นเรื่องยากที่จะอ่านอะไรยาวๆ ลองเลือกมาสักหนึ่งข้อที่คุณเข้าใจ แล้วนำมาคิดใคร่ครวญและท่องจำ
เพราะเหตุใดจดหมายบางฉบับจึงใช้ชื่อคน และอีกหลายฉบับก็ใช้ชื่อแปลกๆ เช่น โครินธ์ หรือ โรม?
จดหมายส่วนใหญ่ในพระคัมภีร์เขียนถึงกลุ่มคริสเตียนในเมืองต่างๆ อย่างเจาะจง เช่น โครินธ์ ก็เป็นเมืองหนึ่งในประเทศกรีซ และผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองนั้นคือ “ชาวโครินธ์”
จดหมายบางฉบับถูกเขียนขึ้นเพื่อส่งต่อให้กับคริสเตียนในหลายที่หลายแห่ง จดหมายเหล่านี้จะใช้ชื่อของผู้เขียนเป็นชื่อของจดหมาย เช่น เปโตร และยอห์น
เพราะเหตุใดเปาโลจึงใช้ภาพของนักรบเป็นตัวอย่าง? การต่อสู้เป็นสิ่งที่ไม่ดีไม่ใช่เหรอ?
ไม่ใช่ทุกครั้งที่เราต้องต่อสู่ด้วยหมัดหรือปืน ยังมีการต่อสู้อีกหลายแบบ เช่นการต่อสู้ของวิลเลียม วิลเบอร์ฟอร์ซ ที่ต้องการยุติการค้าทาสในสหราชอาณาจักร และเมื่อมีสิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้น เราจำเป็นต้องต่อสู้กับมัน
เปาโลรู้ว่าในโลกนี้มีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นมากมาย และเราเองอาจถูกล่อลวงให้หลงไปทำสิ่งไม่ดีได้เช่นกัน ท่านแนะนำให้เราต่อสู้กับการล่อลวงด้วยความช่วยเหลือจากพระเจ้า และท่านใช้ภาพของชุดเกราะก็เพราะว่าทหารโรมันที่สวมชุดเกราะเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป และเป็นสิ่งที่ผู้อ่านทุกคนในสมัยนั้นเข้าใจได้ทันที
คุย: กับพระเจ้า
เด็กๆ อาจเริ่มตระหนักถึงความชั่วร้ายในโลกนี้และเริ่มกลัวถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น เขาอาจเริ่มตั้งคำถามกับความเชื่อคริสเตียนของเขา ความท้าทายที่ 17 นั้นเต็มไปด้วยคำหนุนใจที่ทรงพลัง ที่ย้ำเตือนเราว่าไม่มีสิ่งใดจะแยกเราให้ขาดจากความรักของพระเจ้าได้ และพระวิญญาณจะนำให้เรามีชีวิตอยู่เพื่อพระองค์
อ่านพระธรรมสดุดี 139:5 แล้วอธิบายว่านี่คือถ้อยคำที่พูดกับพระเจ้า “พระองค์ทรงล้อมข้าพระองค์อยู่ทั้งข้างหน้าและข้างหลัง” ขอให้เด็กหลับตาแล้วจินตนาการว่าตัวเองเป็นนักรบที่กำลังจะออกไปสู้รบ แล้วจินตนาการว่าตัวเองกำลังสวมชุดเกราะ จะเป็นชุดเกราะแบบโบราณหรือชุดเกราะสมัยใหม่ก็ได้ ขอบคุณพระเจ้าที่เราสามารถสวมชุดเกราะของพระเจ้าด้วยฤทธิ์อำนาจแห่งพระวิญญาณของพระองค์และอธิษฐานขอพระเจ้าทรงปกป้องคุ้มครองเด็กๆ
ไม่ว่าสถานการณ์ของเราจะเป็นอย่างไร เรารู้สึกปลอดภัยได้โดยพระเจ้า แล้วกล่าวคำอธิษฐานนี้ไปด้วยกัน ทำท่าทางประกอบเพื่อสื่อความหมายของคำอธิษฐานในแต่ละบรรทัด
“พระเยซูทรงนำหน้าเรา เพื่อจัดเตรียมหนทาง
(ประสานมือเข้าด้วยกัน แล้วยื่นมือออกไปข้างหน้า)
พระเยซูทรงอยู่ด้านหลังเรา เพื่อช่วยปกป้องเราจากอันตราย
(ยื่นมือไปด้านหลังของตัวเอง)
พระเยซูทรงอยู่ข้างๆ เรา ทรงอยู่กับเราที่นี่ตอนนี้
(กางแขนออกไปข้างลำตัวทั้งซ้ายและขวา)
พระเยซูทรงอยู่กับเราเสมอ ทุกชั่วโมงทุกเวลา
(เอามือโอบกอดตัวเอง)”