เรื่องราวที่ 55 รู้จักศัตรู
มัทธิว 3:17
มีพระสุรเสียงตรัสจากฟ้าสวรรค์ว่า
“ท่านผู้นี้เป็นบุตรที่รักของเรา
เราชอบใจท่านมาก”
 |
“ภารกิจของคุณ ถ้าคุณรับทำ คือ...” คุณเคยดูหนังที่พระเอกได้รับภารกิจพิเศษที่ต้องทำไหม? คุณรู้อะไรเกี่ยวกับพระเยซู? ไปสัมภาษณ์คนหนึ่งแล้วถามคำถามนี้ คุณรู้ไหมภารกิจของพระเยซุคืออะไร? (เขียนคำตอบลงในเศษกระดาษและดูว่าหลังจากที่คุณอ่าน Big Bible Challenge จบแล้ว คำตอบของคุณจะเปลี่ยนไปหรือไม่) |
เรื่องมีอยู่ว่า...ยอห์นไม่อยากให้บัพติศมาพระเยซูในตอนแรกและคิดว่าควรเป็นพระองค์ที่ให้บัพติศมากับเขา แต่พระเยซูบอกยอห์นว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่พระเจ้าประสงค์ ในขณะที่พระเยซูรับบัพติศมา พระวิญญาณบริสุทธิ์ดั่งนกพิราบลงมาเหนือพระองค์และมีพระสุรเสียงจากสวรรค์ตรัสว่า “ท่านผู้นี้เป็นบุตรที่รักของเรา” มัทธิว3:17 พระเยซูทรงเป็นกษัตริย์ที่รอคอยมานาน เป็นพระเมสิยาห์ของพระเจ้า หลังจากเหตุการณ์สำคัญนี้ พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้นำพระองค์ไปในทะเลทราย ในที่นั้นมารซาตานได้ทดลองพระองค์ พยายามทำให้พระเยซูหมดความศรัทธาในพระวจนะของพระเจ้าและทิ้งภารกิจที่พระเจ้าได้มอบไว้ให้พระองค์ |
มัทธิว 4:1-11 รู้จักศัตรู |
แล้วมีอะไรต่อ...หลังจากที่ยอห์นถูกขังคุก พระเยซูย้ายมาที่เมืองคาเปอร์นาอุม เมืองที่อยู่ข้างกับทะเลทรายกาลิลีดังที่ผู้เผยพระวจนะเอลียาห์ได้กล่าวไว้ว่าพระเยซูจะเป็นแสงสว่างให้แก่ชีวิตผู้คน พระเยซูเริ่มภารกิจที่เมืองนี้ในการนำผู้คนกลับใจไปหาพระเจ้าและบอกถึงอาณาจักรของพระเจ้า |
ครั้งนั้น พระวิญญาณทรงนำพระเยซูเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร เพื่อมารจะได้มาทดลอง และพระองค์ทรงอดอาหารสี่สิบวันสี่สิบคืน ภายหลังพระองค์ก็ทรงหิว ส่วนผู้ทดลองมาหาพระองค์ทูลว่า “ถ้าท่านเป็นพระบุตรของพระเจ้า จงสั่งก้อนหินเหล่านี้ให้กลายเป็นขนมปัง” พระองค์ตรัสตอบว่า “มีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า ‘มนุษย์จะดำรงชีวิตด้วยอาหารเพียงอย่างเดียวไม่ได้
แล้วมารก็นำพระองค์ไปยังนครบริสุทธิ์ และให้พระองค์ประทับที่ยอดหลังคาพระวิหาร แล้วทูลพระองค์ว่า “ถ้าท่านเป็นพระบุตรของพระเจ้า จงกระโดดลงไป เพราะพระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า ‘พระเจ้าจะรับสั่งเรื่องท่านต่อบรรดาทูตสวรรค์ของพระองค์
พระเยซูจึงตรัสตอบว่า “พระคัมภีร์มีเขียนไว้อีกว่า ‘อย่าทดลององค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าของท่าน’ ” อีกครั้งหนึ่งมารได้นำพระองค์ขึ้นไปบนภูเขาที่สูงมาก และได้แสดงบรรดาราชอาณาจักรในโลก ทั้งความรุ่งโรจน์ของราชอาณาจักรเหล่านั้นให้พระองค์ทอดพระเนตร แล้วได้ทูลพระองค์ว่า “ถ้าท่านจะก้มลงนมัสการเรา เราจะให้สิ่งทั้งปวงเหล่านี้แก่ท่าน” พระเยซูจึงตรัสตอบว่า “จงไปให้พ้น เจ้าซาตาน เพราะพระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า ‘จงกราบนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าของท่าน
แล้วมารจึงไปจากพระองค์ และมีพวกทูตสวรรค์มาปรนนิบัติพระองค์
|
 |
สำรวจพระคัมภีร์• มาร (ศัตรูของพระเจ้า) ใช้วิธีการอะไรทดลองพระเยซู? คุณเห็นไหมว่าคำตอบของพระเยซูมีสิ่งใดเหมือนกัน? • เมื่อคุณรู้สึกอยากทำสิ่งผิด อะไรในเรื่องราวตอนนี้ที่จะช่วยให้คุณเลือกสิ่งที่ถูกต้องได้? • มารไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แต่พระเยซูก็ทรงชนะ พูดคุยกับโค้ชพระคัมภีร์เกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้คุณประหลาดใจในเรื่องนี้ |
รู้หรือไม่ว่า...มารหรือซาตาน ในภาษากรีกและฮีบรู คำเหล่านี้มีความหมายว่า “ผู้กล่าวหา” และมักจะใช้เรียกผู้คนที่ทำทุกอย่างเลวร้ายและต่อต้านพระเจ้า ภูตผีปีศาจเป็นศัตรูกับพระเจ้า มารร้ายพยายามหลอกล่วงคนของพระเจ้าไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือเด็กให้ทำบาปเพื่อมันจะสามารถฟ้องความผิดของมนุษย์ต่อพระเจ้าได้ การทดลอง ซาตานหลอกล่อให้พระเยซูทำสิ่งที่ต่อต้านทางของพระเจ้า มันช่างมีเล่ห์กล ฉลาด ยั่วหยวน และอันตราย แต่พระองค์ก็ไม่พลาดท่าทำบาป 40 วัน 40 คืน ในช่วงเวลาที่สำคัญของชีวิตพวกเขาโมเสสและผู้เผยพระวจนะเอลียาห์ได้อดอาหารเป็นเวลา 40 วัน ส่วนพระเยซูเริ่มประกาศเรื่องราวของพระเจ้านั้นเป็นเวลาที่สำคัญที่สุดสำหรับพระองค์ การอดอาหาร หมายถึงการงดอาหารและบางทีก็งดน้ำด้วย |
 |
ลองทำดูสิ |
|
|
คุณเคยจดไหมว่าพระเยซูทำอะไรในการทดลองแต่ละครั้ง พระองค์ไม่ได้โต้เถียงแต่ใช้พระวจนะจากพระคัมภีร์เพื่อปฏิเสธสิ่งที่มารแนะนำ ค้นหาในพระคัมภีร์ของคุณ เปลี่ยนก้อนหินให้เป็นขนมปัง: คำตอบของพระเยซูในเฉลยธรรมบัญญัติ 8:3 ปล่อยให้ทูตสวรรค์รับพระองค์: คำตอบของพระเยซูในเฉลยธรรมบัญญัติ 6:16 นมัสการซาตาน: คำตอบของพระเยซูในเฉลยธรรมบัญญัติ 6:13 พระเยซูไม่ได้พกพระคัมภีร์มากับพระองค์! แต่พระองคจำข้อพระคัมภีร์เหล่านี้ได้ขึ้นใจ พระองค์จึงใช้พระวจนะเพื่อตอบโต้มารร้าย เลือกข้อพระคัมภีร์ที่จะท่องจำกับโค้ชพระคัมภีร์ของคุณ (พระคัมภีร์ข้อที่รู้จักกันดีข้อหนึ่งคือ ยอห์น 3:16) และเราจะเป็นเหมือนพระเยซู เราจะมีข้อพระคัมภีร์จากพระเจ้าอยู่กับเราเสมอ |
 |
พูดคุยกับพระเจ้าขอพระเจ้าประทานกำลังที่จะสามารถต่อต้านเมื่อผู้อื่นล่อลวงให้ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ พวกเราทุกคนอาจพลาดพลั้ง แต่ขอบคุณพระเยซู เราไม่จำเป็นต้องจมปลักอยู่กับความผิดพลาดของเรา “ขอบคุณพระเยซูที่อดทนและไม่ทอดทิ้งเรา พระองค์ทรงให้อภัยความผิดพลาดเพื่อที่มนุษย์จะได้มีความสัมพันธ์อันดีกับพระองค์อีกครั้ง” |
