เรื่องราวที่ 97 ถึงคริสตจักร...ด้วยรักจากพระเยซู
![]() |
บางครั้งเพื่อนๆ ของคุณเคยแกล้งคุณบ้างไหม่ หรือ คนอื่นๆ หัวเราะเยาะคุณเพราะคุณพยายามจะดำเนินชีวิตในทางของพระเจ้า? คุณเคยไม่ได้รับการยอมรับแพราะว่าคุณยืนหยัดเพื่อพระเจ้าบ้างหรือไม่? มีใคร หรือสิ่งใดที่ช่วยคุณไว้? คุณเคยรู้สึกท้อถอยในการติดตามพระเจ้า เพราะรู้สึกว่ามันยากเกินไปบ้างหรือไม่? คุยกับโค้ชพระคัมภีร์เกี่ยวกับว่า คุณรู้สึกอย่างไร และคุณจะสามารถช่วยคนอื่นได้อย่างไร |
เรื่องมีอยู่ว่า...พระธรรมวิวรณ์เริ่มต้นด้วยถ้อยคำของพระเยซูไปถึงคริสเตียนในคริสตจักรทั้งเจ็ดที่กระกจัดกระจายไปอยู่ในฝั่งตะวันตกของตุรกีทุกวันนี้ คือ คริสตจักรเอเฟซัส สเมอร์นา เปอร์กามัม ธิราทิยา ซาร์ดิส ฟิลาเดลเฟีย และเลาดีเซีย ชีวิตเป็นเรื่องยากสำหรับคริสเตียน แต่พวกเขาบางคนไม่ได้สู้ทนต่อไปเพื่อทุกอย่างที่เขารู้จักเกี่ยวพระเยซู นี่คือสิ่งที่พระซูพูดถึงคริสตจักรที่ฟิลาเดลเฟีย และเลาดีเซีย |
วิวรณ์ 3:10-22 ถึงคริสตจักร...ด้วยรักจากพระเยซู |
แล้วมีอะไรต่อ...พระเยซูส่งถ้อยคำไปแต่ละคริสตจักรแตกต่างกัน คริสตจักรเอเฟซัสต้องคงรักษาความรักที่มีให้กับพระเยซูคริสต์เหมือนอย่างรักครั้งแรก คริสเตียนในสเมอร์นาจะทนทุกข์ครั้งใหญ่เพื่อความเชื่อ แต่พวกเขาก็จะได้รับรางวัลด้วยชีวิต ผู้เชื่อในเปอร์กามัมมีแนวคิดบางอย่างผิดไป และในธิราทิยานั้น คริสเตยนไม่ได้คงความจริงต่อคำสอนของพระเยซู ผู้เชื่อในซาร์ดิสต้องตื่นตัวขึ้น และกลับไปใช้ชีวิตเพื่อพระเจ้า พระเยซูหนุนใจผู้คนในฟิลาเดลเฟีย เพราะว่าพวกเขาเชื่อฟังคำของพระองค์ และมีความทรหดอดทน ยอห์นเชิญชวนพวกเขาที่จะฟังว่า พระวิญญาณบริสุทธิ์กำลังพูดอะไรถึงคริสตจักรทั้งหมด เหมือนอย่างผู้คนในเลาดีเซีย พระเยซูต้องการให้เรายังคงเชื้อเชิญพระองค์เข้ามาในชีวิตของพวกเรา |
“จงเขียนถึงทูตสวรรค์ของคริสตจักรที่เมืองเลาดีเซียว่า ‘พระองค์ผู้เป็นพระอาเมน ทรงเป็นพยานที่ซื่อสัตย์และสัตย์จริง และทรงเป็นต้นกำเนิดของสิ่งสารพัดที่พระเจ้าทรงสร้างนั้น ตรัสดังนี้ว่า
“เรารู้จักความประพฤติของเจ้า คือว่าเจ้าไม่เย็นและไม่ร้อน เราอยากให้เจ้าเย็นหรือร้อน เพราะว่าเจ้าเป็นแต่อุ่นๆ ไม่ร้อนและไม่เย็น เราจะคายเจ้าออกจากปากของเรา เพราะเจ้าพูดว่า ‘ข้าเป็นเศรษฐีและข้าร่ำรวยแล้ว ข้าไม่ต้องการสิ่งใดเลย’ เจ้าไม่รู้ว่าเจ้าเป็นคนน่าสมเพช น่าสังเวช เจ้ายากจน ตาบอด และเปลือยกาย เราแนะนำเจ้าให้ซื้อทองคำที่หลอมด้วยไฟจากเรา เพื่อเจ้าจะได้มั่งมี และให้ซื้อเสื้อผ้าสีขาว เพื่อจะได้สวมให้พ้นจากความอับอายที่ต้องเปลือยกาย และซื้อยาหยอดตาของเจ้า เพื่อเจ้าจะได้เห็น เรารักใครเราก็ตักเตือนและตีสอนเขา เพราะฉะนั้นจงมีความกระตือรือร้น และกลับใจใหม่ นี่แน่ะ เรายืนเคาะอยู่ที่ประตู ถ้าใครได้ยินเสียงของเราและเปิดประตู เราจะเข้าไปหาเขาและจะรับประทานอาหารร่วมกับเขา และเขาจะรับประทานอาหารร่วมกับเรา
|
![]() |
สำรวจพระคัมภีร์• แนวการกระทำของคริสเตียนที่ว่าอุ่นๆ ไม่เย็นไม่ร้อนนั้นเป็นอย่างไร? • ถ้าคุณเป็นสมาชิกของคริสตจักรเลาดีเซีย คุณจะคิดถึงเรื่องใดบ้างเมื่อได้รับจดหมายนี้จากพระเยซู? • คุณจะรู้สึกอย่างไรหากได้ยินเสียงเคาะที่ประตู และเมื่อเปิดประตูออก คุณพบพระเยซูยืนอยู่ ทรงต้องการที่จะเข้ามาเยี่ยมคุณ? คุณจะทำอย่างไร? |
รู้หรือไม่ว่า...ช่วงเวลาแห่งการทดสอบ คริสเตียนในเวลานั้นกำลังประสบกับความยากลำบากมากมาย เพราะว่าผู้ปกครองโรมันพยายามที่จะเหยียบย้ำ/ทำลายความเป็นคริสเตียน หลายคนจึงทนทุกข์ทรมาย และบางคนก็ตายเพื่อความเชื่อของพวกเขา ยอห์นหนุนใจพวกเขาโดยบอกพวกเขาว่า พระเจ้าจะพิพากษาผู้นำของโรมัน และหนุนใจว่าจักรวรรดิ/ อาณาจักรของโรมันจะล่มสลายไป เลาดีเซีย เป็นเมืองที่สำคัญในบริเวณที่เรารู้จักกันว่า ประเทศตุรกี อุ่นๆ คำนี้หมายความว่า ไม่ร้อน ไม่เย็น แต่อุ่น ยอห์นกำลังเชื่อมโยงเรื่องราวอย่างชาญฉลาดกับแหล่งกักเก็บน้ำของเลาดีเซีย น้ำนั้นถูกส่งต่อไปตามท่อระบายน้ำที่มาจากน้ำพุร้อนตามธรรมชาติ น้ำนั้นประกอบด้วยหินปูนที่ละลายไปด้วยความร้อน เมื่อน้ำนั้นเดินทางผ่านท่อ มันจะเย็นลง และหินปูนก็จะออกมา ช่วงเวลาที่น้ำมาถึงเมืองนั้น มันก็อุ่นและสกปรก คุณคงไม่อยากจะดื่มมันใช่ไหม! ยอห์นก็กล่าวว่าคริสตจักรเลาดีเซียก็เป็นเหมือนกับน้ำอุ่นนั้นแหละ! |
![]() |
ลองทำดูสิ |
|
วิวรณ์ 3:20 เป็นพระธรรมข้อหนึ่งที่เป็นที่รู้จักกันดี คริสเตียนหลายคนมักใช้พระคัมภีร์ข้อนี้อธิบายว่าพวกเขามาเป็นเพื่อนกับพระเจ้าได้อย่างไร ใน “สมบัติของหิมะ” โดย แพทริเซีย เซนต์จอห์น สาวน้อย แอนเนท ได้ยินพระคัมภีร์ข้อนี้ในโบสถ์ และถามให้คุณยายของเธอช่วยอธิบายเพิ่มเติม “คุณยายคะ หมายความว่ายังไงคะที่บอกว่า พระเยซูเคาะอยู่ที่ประตูหัวใจของเรา?” “มันก็หมายความว่า” คุณยายกล่าวขึ้น พร้อมกับวางไหมพรมถักลง และมุ่งความสนใจไปที่แอนเนท “พระผู้ช่วยให้รอดมองเห็นว่าชีวิตของหนูนั้นเต็มไปด้วยความผิด และความคิดที่มืดมิด พระองค์จึงลงมา และถูกตรึงกางเขน เพื่อที่พระองค์จะรับการลงโทษการกระทำที่ผิด และความผิดที่มืดมิดเหล่านั้นแทนหนูไงหล่ะ จากนั้นพระองค์ก็เป็นขึ้นจากความตายอีกครั้ง ดังนั้นพระองค์จึงสามารถเข้ามาในชีวิตของหนู และสถิตอยู่ในหนู และเอาความคิดที่ผิดออกไป แล้วใส่ความคิดของพระองค์ที่ดีและเต็มไปด้วยความรักลงไปทน มันก็เหมือนกับผู้ชายคนหนึ่งที่มาเคาะประตูบ้านที่สกปรก เลอะเทอะ และมืดมัว แล้วกล่าวว่า ‘ถ้าคุณให้ผมเข้าไป ผมจะเอาฝุ่นและความมืดออกไปให้หมด และทำให้มันสดใสสวยงาม’ แต่จำไว้ว่า พระองค์ไม่เคยผลักเข้าไป พระองค์เพียงแค่ถามว่า พระองค์จะเข้าไปได้ไหม นั้นก็เป็นความหมายของการเคาะเรียก หนูควรจะตอบว่า ‘ได้ค่ะ องค์พระเยซูคริสต์เจ้า หนูต้องการพระองค์ และอยากให้พระองค์เข้ามาและ อยู่ภายในหนู’ นั้นก็เป็นความหมายของการเปิดประตูจ้ะ” แล้วสายตาของแอนเนทก็จ้องไปที่คุณยายของเธอเป็นเวลานาน จนกระทั่งแอนเนททำลายความเงียบขึ้นมา “แต่ คุณยายคะ” เธอกล่าว พร้อมกับดึงเก้าอี้ที่เธอนั่อยู่มาใกล้ๆแล้วพิงกับเข่าของคุณยาย เธอกล่าวว่า “ถ้าคุณยาย เกลียด ใครบ้างคน คุณยายก็ไม่สามารถเรียกให้พระเยซูเข้ามาได้ใช่ไหมคะ?” “ถ้าหนูเกลียดใครบางคน” คุณยายกล่าว “หนูก็เพียงแค่แสดงให้เห็นแล้วว่าหนูไม่ดีอย่างไร และหนูต้องการที่จะเรียกให้พระองค์เข้ามา...” (จาก Treasures of the Snow © Patricia St John 1950 ตีพิมพ์โดย Scripture Union)
|
![]() |
พูดคุยกับพระเจ้าคุณอยากจะพูดอะไรกับพระเจ้าเกี่ยวกับเรื่องราวตอนนี้ในพระคัมภีร์ |