ความท้าทาย 16 ข่าวประเสริฐสำหรับทุกคน
เซาโล (หรือเปาโล) ศัตรูผู้เกรี้ยวกราดของเหล่าสาวกของพระเยซู ได้เผชิญหน้ากับพระเยซู ได้รับการทรงเรียกจากพระเจ้า จากนั้น ด้วยการสนับสนุนจากผู้เชื่อคนอื่นๆ ท่านได้กลายมาเป็นผู้เชื่อด้วยความเต็มใจ การเผชิญหน้ากับพระเยซูผู้เป็นขึ้นมาได้นำไปสู่เปลี่ยนแปลงอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของท่านและพันธกิจ การเปลี่ยนแปลงนี้มาพร้อมกับการทรงเรียกให้ไปประกาศข่าวประเสริฐ "แก่คนต่างชาติ และกษัตริย์ของพวกเขา และประชาชนชาวอิสราเอล" (กิจการ 9:15) ท่านอุทิศชีวิตที่เหลือของท่านเพื่อกระทำพันธกิจนี้
เปาโล ถูกส่งออกไปโดยคริสตจักรที่เมืองอันทิโอก หลังจากนั้น พันธกิจมิชชันได้เกิดขึ้นในอีกหลายเมือง ซึ่งในปัจจุบัน คือ ภาคใต้ของประเทศตุรกี แม้จะมีผู้ต่อต้านเป็นจำนวนมาก แต่ในทุกๆ เมือง เปาโลก็ได้สร้างคริสเตียนไว้มากมาย
มีความขัดแย้งเกิดขึ้นท่ามกลางคริสตจักรในยุคแรก โดยเถียงกันว่าใครคือผู้ที่ "สมควร" จะได้ชื่อว่าเป็นผู้เชื่อแท้ ข้อพิพาทนี้ถูกจัดการอย่างสร้างสรรค์ บรรดาผู้เชื่อมารวมตัวกัน และทุกคนมีโอกาสได้แสดงความคิดเห็นของตนเอง แต่ยังคงพึ่งพาการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ กิจการ 15 เป็นบทที่สำคัญมาก เพราะได้ยืนยันว่าคนต่างชาติถูกนับว่าเป็นผู้เชื่อแท้ โดยไม่จำเป็นต้องยึดถือกฏเกณฑ์ที่ยุ่งยากของชาวยิว
ต่อมา เปาโลเดินทางไปยังเมืองกรีซ และไปถึงกรุงโรมในที่สุด ถึงแม้ท่านจะยังถูกคุมขัง แต่ความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะประกาศข่าวประเสริฐยังชัดเจนอยู่เสมอ ไม่ว่าสถานการณ์รอบข้างจะเป็นเช่นไร จะถูกต่อต้านหนักหนาแค่ไหน นี่ไม่ใช่ตอนจบที่น่าเศร้าของพันธกิจล้ำค่านี้ แต่กลับเป็นโอกาสที่เปาโลได้ประกาศข่าวประเสริฐกับผู้ที่มีอำนาจในทางการเมือง
ทั้งนี้ ชีวิตของเปาโลถูกขับเคลื่อนไปด้วยสำนึกแห่งการทรงเรียกจากพระเจ้า ได้พบพระคริสต์ผู้เป็นขึ้นมาจากความตาย ซาบซึ่งในฤทธิ์อำนาจแห่งการเปลี่ยนแปลงของพระวิญญาณ และด้วยสำนึกว่าพันธกิจนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน สิ่งเหล่านี้ควรจะเป็นแรงจูงใจในการทำพันธกิจของเราด้วยเช่นกัน
เชื่อมโยง: เรื่องราวทั้งห้าในความท้าทายนี้
เรื่องราวในพระธรรมกิจการเป็นประวัติศาสตร์ของคริสตจักรในยุคแรก บันทึกโดยลูกา ในตอนนี้เราจะตามติดชีวิตของเปาโล เริ่มตั้งแต่เมื่อท่านมาเป็นคริสเตียน อ่านเรื่องราวตามลำดับนี้ เพื่อดูว่าชีวิตและการผจญภัยของเปาโลพัฒนาไปอย่างไร รายละเอียดในบางช่วงดูมีสีสันมาก นั่นก็เพราะว่าลูการู้จักเปาโลจริงๆ ท่านติดสอยห้อยตามเปาโลไปในช่วงที่มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น
ลูกาแสดงให้เราเห็นว่าเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า ไม่ใช่เป็นแผนการของเปาโล มีหลายครั้งที่เปาโลและสหายของท่าน ถูกยับยั้งไม่ให้เดินทางไปยังสถานที่บางแห่ง หรือถูกนำให้ไปยังสถานที่บางแห่งที่คาดไม่ถึง
-
กิจการ 9:5 เซาโลจึงทูลถามว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์เป็นใคร?” พระองค์ตรัสว่า “เราคือเยซูผู้ที่เจ้าข่มเหง”
-
กิจการ 14:15"ท่านทั้งหลาย ทำไมจึงทำเช่นนี้? เราก็เป็นคนธรรมดาเช่นเดียวกับท่านทั้งหลาย และมาประกาศข่าวประเสริฐให้ท่านหันกลับจากสิ่งไร้ประโยชน์เหล่าน...
-
กิจการ 15:11 เราเชื่อว่าเราเองจะรอดโดยพระคุณของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าเช่นเดียวกับพวกเขา
-
กิจการ16:14มีหญิงคนหนึ่งเป็นคนที่นับถือพระเจ้า หญิงคนนั้นมาฟังเรา และองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดใจของนางให้สนใจถ้อยคำที่เปาโลกล่าว
-
กิจการ 27:25 ท่านทั้งหลาย จงทำใจดีๆ ไว้ เพราะข้าพเจ้าเชื่อพระเจ้าว่า เหตุการณ์จะต้องเป็นไปตามที่พระองค์ทรงกล่าวไว้กับข้าพเจ้า
ใคร่ครวญ: ความท้าทายนี้มีความหมายอย่างไรในปัจจุบัน
เรื่องราวเหล่านี้ ย้ำเตือนเราว่า ไมว่าใครและไม่ว่าที่แห่งใด พระเจ้าสามารถกระทำกิจของพระองค์ได้ เปาโลที่ดูเหมือนว่าไม่น่าจะเป็นคริสเตียนได้ แต่พระเจ้าทรงช่วยให้ท่านเปลี่ยนแปลง สถานที่บางแห่งและสถานการณ์บางอย่างที่เปาโลและสหายของท่านพบว่าไม่เหมาะที่จะประกาศข่าวประเสริฐ แต่พระเจ้าก็ทรงทำงานทั้งในและผ่านทางผู้รับใช้ของพระองค์ได้
สิ่งนี้ได้ย้ำเตือนเราเช่นกันว่า แม้สิ่งต่างๆ จะยากลำบาก และเราอาจต้องเผชิญหน้ากับศัตรู และอันตรายต่างๆ พระเจ้าจะทรงปกป้องและทรงนำเราอยู่เสมอ
ไขข้อข้องใจ: คำถามที่เด็กๆ อาจถามเกี่ยวกับความท้าทายนี้
พระเจ้าทรงนำเราอย่างไร? ดูเหมือนว่าพระเจ้าทรงนำเปาโลด้วยวิธีการที่แปลกประหลาด ท่านได้เห็นนิมิตของผู้คนหรือของฑูตสวรรค์ แล้ว "พระวิญญาณของพระเยซู" ยับยั้งเปาโลไม่ให้ไปในที่บางแห่งด้วยวิธีใด?
การดำเนินตามการทรงนำของพระเจ้าเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับคริสเตียน แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมั่นใจได้ว่าอะไรคือสิ่งที่พระเจ้าอยากให้เราทำ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะเห็นนิมิตอย่างชัดเจนว่าควรทำอะไร นี่คือสิ่งที่อาจจะช่วยให้คุณรู้ถึงการทรงนำของพระเจ้าได้
สิ่งที่คุณทำต้องสอดคล้องกับที่พระคัมภีร์บอกไว้ ถ้าพระคัมภีร์ยืนยันว่าบางสิ่งนั้นเป็นเรื่องที่ผิด แน่นอนว่าพระเจ้าจะไม่ทรงนำให้เราทำสิ่งนั้น
ยิ่งเราใกล้ชิดพระเจ้ามากเท่าไหร่ (ผ่านการพูดคุยกับพระองค์ทุกวัน และร่วมสามัคคีธรรมกับผู้เชื่อคนอื่นๆ) เราก็จะยิ่งรู้น้ำพระทัยของพระเจ้ามากขึ้นเท่านั้น
บางครั้ง เรามั่นใจว่าเป็นการถูกต้องที่จะทำอะไรบางอย่างและเราก็อธิษฐานเผื่อเรื่องนั้น แล้วก็มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นและกีดกันเราจากการทำสิ่งนั้นๆ นี่ก็สามารถเป็นการทรงนำของพระเจ้าได้ และบ่อยครั้งที่พระองค์มีบางสิ่งที่แตกต่างและดีกว่าสิ่งที่เราคิดไว้ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเปาโล เมื่อท่านได้พบกับพระวิญญาณของพระเยซู ที่ยับยั้งไม่ให้ท่านดำเนินไปในทางนั้น
คุย: กับพระเจ้า
สรุปเรื่องราวของคริสตจักรในยุคแรกที่เติบโตขึ้นโดยการส่งชายและหญิงออกไปประกาศเรื่องพระเยซู มีผู้คนมากมายที่กลายมาเป็นสาวก แต่มิชชันนารีในยุคแรกนั้นต้องเผชิญกับอันตรายและความทุกข์ยาก บางครั้งอาจต้องเสี่ยงชีวิต ในปัจจุบัน การประกาศข่าวประเสริฐหลายพื้นที่ทั่วโลกยังคงเป็นเรื่องที่อันตราย
คุยกับลูกของคุณถึงวิธีการอธิษฐานเผื่อผู้ที่ประกาศข่าวประเสริฐแก่ผู้อื่น ถ้าคริสตจักรของคุณสนับสนุนพันธกิจมิชชันอยู่แล้ว ลองนำรูปภาพหรือข้อมูลบางอย่างมาให้เขาดู หรือค้นหาข้อมูลจากหน่วยงานคริสเตียนต่างๆ องค์กรบางแห่ง เช่น Open Doors มีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือคริสเตียนทั่วโลกที่ถูกข่มเหง คนเหล่านั้นเมื่อมาเป็นคริสเตียน กลับต้องตกงาน ต้องจากบ้านจากครอบครัว หรือถูกทำร้ายเพราะความเชื่อของเขา และอย่าลืมว่าเรามีองค์การคริสตสัมพันธ์ที่ดำเนินงานอยู่มากกว่า 130 ประเทศทั่วโลก คุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพันธกิจนี้ได้ที่ www.su-international.org/
อธิษฐานทูลขอการปกป้องจากพระเจ้าในเรื่องต่างๆที่ได้พูดคุยกัน ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเติมเต็มพวกเขาและเสริมกำลังในการทำพันธกิจ หนุนใจลูกๆของคุณให้เก็บรูปภาพ หรือจดชื่อของคนเหล่านั้น ติดไว้ที่หัวเตียงและอธิษฐานเผื่อพวกเขาทุกวัน
เด็กๆ ชอบที่จะทำบางอย่างเพื่อสิ่งที่เขาได้อธิษฐานเผื่อ ดังนั้น ให้เตรียมกิจกรรมตอบสนองต่อคำอธิษฐานอย่างเป็นรูปธรรมเผื่อไว้ด้วย