เรื่องราวที่ 33 ดาวิดกับโกลิอัท

1 ซามูเอล 16:13ก
ซามูเอลจึงนำเขาสัตว์ที่มีน้ำมัน
เจิมดาวิดไว้ท่ามกลางพวกพี่ชายของเขา

ลองจินตนาการว่า คุณและเพื่อนกำลังไปดูภาพยนตร์หรือเล่นบาสเก็ต-บอล แต่กลับมีคนมาบอกว่า คุณเด็กเกินไปที่จะเข้าไปดูหรือร่วมทีม คุณจะรู้สึกอย่างไร?

ทีนี้ลองจินตนาการว่าคุณกำลังจะเจอกับยักษ์ คุณอยากจะเอาอะไรไปด้วย? คุณจะป้องกันตัวอย่างไร?

คุณจะพูดหรือทำอย่างไรหากมีคนมาพูดดูหมิ่นพระเจ้าให้คุณฟัง หรือบอกคุณว่าพระเจ้าไม่มีจริง?

 

เรื่องมีอยู่ว่า...

กษัตริย์ซาอูลทรงเป็นกษัตริย์อยู่หลายปี พระองค์ทรงเริ่มต้นด้วยดี แต่ต่อมา
ทรงเลิกเชื่อฟังพระเจ้า พระเจ้าต้องทรงแต่งตั้งกษัตริย์ใหม่ พระเจ้าได้ทรงบอกแผนการนี้แก่ซามูเอล เพื่อให้เขาไปเยี่ยมครอบครัวใหญ่ครอบครัวหนึ่งซึ่งมีลูก 8 คน ซามูเอลคิดว่าลูกคนโตจะได้เป็นกษัตริย์องค์ใหม่ แต่พระเจ้าได้ทรงแสดงให้เห็นว่า พระองค์ทรงเลือกคนสุดท้องชื่อดาวิด ดาวิดยังเป็นเด็กหนุ่ม ช่วยพ่อเลี้ยงแกะ แต่ไม่นานชีวิตของเขาจะเปลี่ยนไป...

1 ซามูเอล 17:40–51

ดาวิดกับโกลิอัท

 

แล้วมีอะไรต่อ...

เมื่อโกลิอัทตาย ทหารทั้งหมดของเขาก็หนีไป พระเจ้าทรงช่วยคนของพระองค์ให้รบชนะคนฟีลิสเตีย ดาวิดถูกนำตัวเข้าไปในวัง ผู้คนทั่วไปรักและชื่นชมสิ่งที่ดาวิดได้ทำ ซาอูลเริ่มอิจฉาและพยายามทำร้ายดาวิด แต่ดาวิดไม่ได้เอาคืน และพระเจ้าทรงปกป้องเขา 

คนฟีลิสเตียนั้นก็ออกมาใกล้ดาวิด พร้อมกับคนถือโล่เดินนำหน้า เมื่อคนฟีลิสเตียมองดูเห็นดาวิดก็ดูถูกเขา เพราะเขาเป็นคนหนุ่ม ผิวแดงๆ รูปร่างงามน่าดู คนฟีลิสเตียจึงพูดกับดาวิดว่า “ข้าเป็นหมาหรือ เจ้าจึงถือไม้เท้ามาหาข้า” และคนฟีลิสเตียคนนั้นก็แช่งด่าดาวิด โดยใช้นามพวกพระของตน คนฟีลิสเตียพูดกับดาวิดว่า “มาหาข้า ข้าจะเอาเนื้อของเจ้าให้นกในอากาศกับสัตว์ป่ากิน”

แล้วดาวิดก็พูดกับคนฟีลิสเตียคนนั้นว่า “ท่านมาหาข้าด้วยดาบ ด้วยหอกและด้วยหอกซัด แต่ข้ามาหาท่านในพระนามแห่งพระยาห์เวห์จอมทัพ พระเจ้าแห่งกองทัพอิสราเอล ผู้ซึ่งท่านได้ท้าทาย ในวันนี้พระยาห์เวห์จะทรงมอบท่านไว้ในมือข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจะฆ่าท่านและตัดศีรษะของท่าน ในวันนี้ข้าพเจ้าจะให้ศพของกองทัพฟีลิสเตียแก่นกในอากาศและแก่สัตว์ป่า เพื่อทั้งโลกนี้จะทราบว่ามีพระเจ้าองค์หนึ่งในอิสราเอล และชุมนุมชนนี้ทั้งสิ้นจะทราบว่า พระยาห์เวห์ไม่ได้ทรงช่วยด้วยดาบหรือด้วยหอก เพราะว่าการรบครั้งนี้เป็นของพระยาห์เวห์ พระองค์จะทรงมอบพวกท่านไว้ในมือของพวกเรา”

ต่อมาเมื่อคนฟีลิสเตียนั้นลุกขึ้นเข้ามาใกล้เพื่อปะทะดาวิด ดาวิดก็วิ่งเข้าหาแนวรบเพื่อปะทะกับคนฟีลิสเตียนั้นอย่างรวดเร็ว และดาวิดเอามือล้วงเข้าไปในย่ามหยิบหินก้อนหนึ่งออกมา แล้วเหวี่ยงด้วยสลิงถูกคนฟีลิสเตียคนนั้นที่หน้าผาก ก้อนหินจมเข้าไปในหน้าผาก เขาก็ล้มหน้าคว่ำลงที่ดิน ดังนั้นดาวิดก็ชนะคนฟีลิสเตียคนนั้นด้วยสลิงและก้อนหินก้อนหนึ่ง และคว่ำคนฟีลิสเตียคนนั้นลง และฆ่าเขาเสีย แต่ดาวิดไม่มีดาบอยู่ในมือ

 

สำรวจพระคัมภีร์

 • โกลิอัทข่มขวัญดาวิดอย่างไร? ได้ผลมากน้อยเพียงไร?

 • ถ้าคุณเป็นดาวิดในตอนนั้น คุณจะตอบโต้โกลิอัทว่าอย่างไร?

 • ใช้คำพูดของคุณเองอธิบายว่า การที่เราบอกว่าเราเชื่อใน "พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์" เราหมายความว่าอย่างไร?

   

 

รู้หรือไม่ว่า...

ฟีลิสเตีย ชาวฟีลิสเตียเป็นผู้ที่ตั้งรกรากอยู่ทางชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของคานาอัน ก่อนที่ชาวอิสราเอลจะเข้ามา ให้ไปดูแผนที่ที่ www.thaibigbiblechallenge.com พวกเขาเป็นนักรบที่เก่งกาจและมีอาวุธที่ดีกว่าอิสราเอล ดังนั้น จึงเป็นศัตรูที่อันตราย

พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ ดาวิดเรียกพระเจ้าว่า "พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์" เมื่อชาวฟีลิสเตียพูดลบหลู่พระเจ้า ถือเป็นการสบประมาทอย่างร้ายแรง พระเจ้าทรงปกป้องพระนามของพระองค์ผ่านทางดาวิด ฟีลิสเตียจึงแพ้สงคราม

สลิง สลิงของดาวิดเป็นเพียงเส้นหนังหนึ่งเส้น ตรงกลางกว้างกว่าส่วนอื่นใช้วางก้อนหิน ผู้ใช้สลิงจะจับปลายทั้งสองด้านด้วยมือเดียว เหวี่ยงสลิงรอบศีรษะ แล้วยิงก้อนหินโดยปล่อยปลายด้านหนึ่งอย่างรวดเร็ว

 

ลองทำดูสิ

 
 

ดาวิดไม่ได้ไปโรงเรียนเหมือนอย่างเด็กๆ ทุกวันนี้ หากเขาได้ไป ในสมุดพกคงจะเขียนว่า 

 • ดาวิดเป็นคนที่ไว้ใจได้ และเต็มใจทำงานง่ายๆ แม้งานจะไม่น่าตื่นเต้น

 • ดาวิดดูแลฝูงแกะของคุณพ่อได้ดี

 • ดาวิดเก่งเรื่องการใช้ทักษะที่เขามี

 • ดาวิดเป็นคนกล้าหาญ โดยเฉพาะเมื่อเจอคนสูงใหญ่และน่ากลัว

 • ดาวิดไม่เชื่อว่าโล่ สลิงและก้อนหินจะช่วยเขาได้ แต่เขาเชื่อในพระเจ้า

สมมติว่าคุณเป็นครูของดาวิด ลองเขียนรายงานเพิ่มเติมในสมุดพกของเขา

ให้เขียนเครื่องหมายถูกหน้าข้อที่แสดงว่าพระเจ้าได้ช่วยให้ความเชื่อของดาวิดเติบโตเข้มแข็ง

 

 

พูดคุยกับพระเจ้า

"พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระองค์ทรงรักข้าพระองค์ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้เชื่อฟังพระองค์ตลอดไป"