เรื่องราวที่ 39 เอลียาห์และผู้เผยพระวจนะ

1 พงศ์กษัตริย์ 18:39
และเมื่อประชาชนทั้งหมดได้เห็น
พวกเขาก็ซบหน้าลงร้องว่า  
“พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า
พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า”

ใครน่าจะเป็นฝ่ายชนะถ้ามีการแข่งขันกันระหว่างทีมที่มี 450 คน กับทีมที่มีแค่คนเดียว? ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?

ลองจินตนาการว่าตัวคุณกำลังอยู่ในฝูงชนจำนวน 10,000 คน คุณเชื่อว่าพระเจ้ามีจริง อีก 9,999 คนไม่เชื่อ คุณจะทำอย่างไรให้คนอีก 9,999 คนฟังคุณ?

เราสามารถได้ยินหรือมองเห็นพระเจ้าได้ไหม? เราจะรู้ได้อย่างไรว่าพระเจ้ามีจริง?

 

เรื่องมีอยู่ว่า...

ชาวอิสราเอลเรียกตัวเองว่า "ประชากรของพระเจ้า" และฟังสิ่งที่พระองค์ตรัสกับพวกเขา โดยเฉพาะเวลาที่พวกเขามีปัญหากับศัตรู แต่เมื่อพระเจ้าทรงช่วยให้พวกเขาได้มีเวลาอันสงบสุข ปลอดสงคราม พวกเขาก็ลืมพระเจ้าและเริ่มคิดว่าบรรดาพระเทียมเท็จของผู้คนรอบข้างก็ดีเหมือนกัน หนึ่งในพระเทียมเท็จเป็นรูปเคารพชื่อว่า พระบาอัล มีผู้นับถือมากมาย และเอลียาห์ผู้รับใช้ของพระเจ้าได้ท้าชวนผู้นับถือพระบาอัลมาประชันกันว่า ใครคือพระเจ้าที่แท้จริง?

1 พงศ์กษัตริย์ 18:30–39

เอลียาห์และผู้เผยพระวจนะ

 

แล้วมีอะไรต่อ...

หลังจากการประชันกันระหว่างพระบาอัลและพระเจ้า ประชาชนก็ตระหนักว่าใครคือพระเจ้าที่แท้จริง และกำจัดพวกผู้เผยพระวจนะของพระบาอัลออกไป แล้วประชาชนก็กลับมาเชื่อฟังและติดตามพระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา คือ อับราฮัม อิสอัคและยาโคบอีกครั้ง แต่กษัตริย์อาหับไม่ได้ทรงกลับใจ เอลียาห์ยังคงรับใช้พระเจ้าต่อไป แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่เสมอ

แล้วเอลียาห์พูดกับประชาชนทั้งสิ้นว่า “จงเข้ามาใกล้ข้าพเจ้า” และประชาชนทั้งหมดก็เข้ามาใกล้ท่าน และท่านก็ซ่อมแท่นบูชาของพระยาห์เวห์ที่ถูกทำลายลงนั้น เอลียาห์นำศิลาสิบสองก้อนมา ตามจำนวนเผ่าบุตรชายของยาโคบ ผู้ซึ่งพระวจนะของพระยาห์เวห์มาถึงว่า “อิสราเอลจะเป็นชื่อของเจ้า” และท่านได้สร้างแท่นบูชาด้วยศิลาเหล่านั้นในพระนามของพระยาห์เวห์ และท่านได้ขุดร่องใหญ่รอบแท่นพอจุน้ำได้ประมาณ 14 ลิตร และท่านก็วางฟืนไว้เป็นระเบียบ และสับวัวนั้นเป็นท่อนๆ และวางไว้บนกองฟืน และท่านกล่าวว่า “จงเติมน้ำให้เต็มสี่ไห แล้วเทลงบนเครื่องบูชาเผาทั้งตัว และบนกองฟืน” และท่านกล่าวว่า “จงทำครั้งที่สอง” และเขาก็ทำครั้งที่สอง และท่านกล่าวว่า “จงทำครั้งที่สาม” และเขาก็ทำครั้งที่สาม และน้ำไหลรอบแท่นบูชา และท่านใส่น้ำเต็มร่องด้วย

และต่อมาเมื่อถึงเวลาถวายบูชา เอลียาห์ผู้เผยพระวจนะก็เข้ามาใกล้ ทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของอับราฮัม อิสอัค และอิสราเอล ขอให้เขาทราบเสียทั่วกันในวันนี้ว่า พระองค์คือพระเจ้าในอิสราเอล และข้าพระองค์เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ และข้าพระองค์ได้ทำสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้นตามพระดำรัสของพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงตอบข้าพระองค์ ทรงตอบข้าพระองค์ เพื่อชนชาตินี้จะทราบว่าพระองค์คือพระยาห์เวห์ ทรงเป็นพระเจ้า และพระองค์ทรงหันจิตใจของเขาทั้งหลายกลับมาอีก” แล้วไฟของพระยาห์เวห์ก็ตกลงมาและเผาเครื่องบูชาเผาทั้งตัว และฟืน หิน และผงคลี และลามเลียน้ำในร่องจนแห้ง และเมื่อประชาชนทั้งหมดได้เห็น พวกเขาก็ซบหน้าลงร้องว่า “พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า”

 

สำรวจพระคัมภีร์

 • ทำไมเอลียาห์ถึงได้ขอให้ประชาชนเข้ามาดูการประชันครั้งนี้?

 • พระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานของเอลียาห์อย่างไร?

 • เอลียาห์ทูลขอพระเจ้าให้ทรงทำให้ประชาชนกลับใจมาหาพระองค์ หมายความว่าอย่างไร?

   

 

รู้หรือไม่ว่า...

เครื่องบูชา มีกฎเกณฑ์มากมายเกี่ยวกับของต่างๆ ที่จะนำมาถวายแด่พระเจ้า ทั้งสัตว์บก สัตว์ปีก หรืออาหาร ทุกเวลาเช้าและเย็นปุโรหิตจะถวาย "เครื่องบูชา" แด่พระเจ้าในพระวิหาร

แท่นบูชา คือแท่นที่ใช้ทำพิธีถวายเครื่องบูชา เอลียาห์ได้สร้างแท่นที่แข็งแรงมั่นคงขึ้นจากหินก้อนใหญ่ 12 ก้อน และวางฟืนและเนื้อไว้ด้านบน

พระบาอัล นางเยเซเบล พระชายาของกษัตริย์อาหับนมัสการพระบาอัล และต่อมาไม่นานอาหับและประชาชนเกือบทั้งหมดก็หันหนีไปจากพระเจ้า

 

ลองทำดูสิ

 
 

ไม่ง่ายเลยที่จะยืนหยัดเพื่อพระเจ้าอยู่เพียงคนเดียว! สดุดีบทที่ 27 พูดถึงการวางใจพระเจ้า และข้อ 14 กล่าวว่า "จงรอคอยพระยาห์เวห์ จงเข้มแข็ง และให้จิตใจของท่านกล้าหาญเถิด เออ จงรอคอยพระยาห์เวห์"

กล่าวข้อความนี้ซ้ำๆ จนกว่าคุณจะจำได้โดยไม่ต้องดู

ท้าให้โค้ชพระคัมภีร์ของคุณท่องให้ขึ้นใจแข่งกัน!

ใช้ข้อพระคัมภีร์นี้ทักทายโค้ชพระคัมภีร์ของคุณเมื่อพบกันหรือพูดคุยกัน ให้คนหนึ่งพูดว่า "จงรอคอยพระยาห์เวห์!" แล้วให้อีกคนตอบว่า "จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด จงรอคอยพระยาห์เวห์"

 

 

 

พูดคุยกับพระเจ้า

พระเจ้าทรงสร้างเรา และทุกสิ่งที่เรามีนั้นพระองค์ทรงประทานให้ จงขอบพระคุณพระองค์สำหรับสิ่งเหล่านั้น และทูลขอพระองค์ให้ "ทรงรักษาจิตใจของคุณให้หันหาพระองค์" อยู่เสมอ