เรื่องราวที่ 94 เชื่อแล้วจงทำ!
ยากอบ 2:17
ลำพังความเชื่อ ถ้าไม่มีการปฏิบัติ
ก็เป็นสิ่งที่ตายแล้ว
 |
คุณคิดอย่างไรกับบางคนที่พูดว่าเขาเป็นเพื่อนรักของคุณ แต่กลับไม่เคยแบ่งขนมให้คุณทานหรือไม่เคยแบ่งปันของเล่นกับคุณเลย? แค่การพูดดีๆ ยังไม่เพียงพอ ยังมีอะไรอีกบ้างที่คุณควรทำ? คุณเคยบอกกับใครบ้างไหมว่า “คุณดูเหนื่อยๆ นะ”? คุณทำอย่างไร? คุณเคยพูดแบบนี้ไหม “เธอพลาดไปหลายวิชาเลยนะ ช่วงที่เธอไม่ได้มาโรงเรียน”? คุณทำอย่างไร? ลองคิดถึงสิ่งที่คุณอยากจะพูดและทำเพื่อใครซักคนในวันนี้ได้ไหม? |
เรื่องมีอยู่ว่า...ยากอบมีข้อความที่เป็นรูปธรรมชัดเจน เราเติบโตขึ้นในความเชื่อเมื่อเจอกับความยากลำบาก ความเชื่อของเราจะต้องแสดงออกผ่านการใช้ชีวิตของเรา เราไม่ควรปฏิบัติกับใครบางคนดีกว่าคนอื่นๆ เราต้องรักคนอื่นเหมือนที่เรารักตนเอง ยากอบหนุนใจเราว่า ไม่ใช่เพียงแต่ฟังเท่านั้น แต่ต้องเชื่อฟังพระองค์ด้วย |
ยากอบ 2:14-26 เชื่อแล้วจงทำ! |
แล้วมีอะไรต่อ...ยากอบหนุนใจเราว่า ไม่ใช่เพียงแต่ฟังเท่านั้น แต่ต้องเชื่อฟังพระองค์ด้วย ท่านยังบอกอีกว่า การมีชีวิตเช่นนี้ จำเป็นต้องรู้จักควบคุมตนเอง เราต้องแน่ใจอยู่เสมอว่าเราติดสนิทกับพระเจ้า ยากอบปิดท้ายจดหมายของท่านด้วยการหนุนใจผู้อ่านให้อดทนและอธิษฐานต่อไป เพื่อพวกเขาเองและเพื่อคนอื่นๆ ด้วย |
พี่น้องของข้าพเจ้า แม้ใครจะกล่าวว่าตนมีความเชื่อ แต่ไม่ได้ประพฤติตามจะมีประโยชน์อะไร? ความเชื่อนั้นจะช่วยให้เขารอดได้หรือ? ถ้าพี่น้องชายหรือหญิงคนไหนขาดแคลนเสื้อผ้าและอาหารประจำวัน แล้วมีใครในพวกท่านกล่าวกับเขาทั้งหลายว่า “ขอให้กลับไปอย่างเป็นสุข ให้อบอุ่น และอิ่มหนำสำราญเถิด” แต่ไม่ได้ให้สิ่งจำเป็นฝ่ายกายแก่พวกเขา จะมีประโยชน์อะไร? ทำนองเดียวกัน ลำพังความเชื่อ ถ้าไม่มีการปฏิบัติ ก็เป็นสิ่งที่ตายแล้ว
แต่บางคนจะกล่าวว่า “ท่านมีความเชื่อและข้าพเจ้ามีการประพฤติ” จงแสดงให้ข้าพเจ้าเห็นความเชื่อของท่านโดยไม่มีการประพฤติซิ แล้วข้าพเจ้าจะแสดงให้ท่านเห็นความเชื่อของข้าพเจ้าโดยการประพฤติ ท่านเชื่อว่าพระเจ้ามีเพียงองค์เดียว นั่นก็ดี แม้พวกผีก็เชื่อและกลัวจนตัวสั่น คนโฉดเขลาเอ๋ย ท่านต้องการให้พิสูจน์ว่าความเชื่อที่ไม่มีการประพฤตินั้นไร้ผลหรือ? อับราฮัมบรรพบุรุษของเรา ถวายอิสอัคบุตรของท่านบนแท่นบูชา จึงถูกชำระให้ชอบธรรมเพราะการประพฤติไม่ใช่หรือ? ท่านก็เห็นแล้วว่า ความเชื่อนั้นทำงานควบคู่กับการประพฤติของเขา และความเชื่อก็สมบูรณ์โดยการประพฤตินั้น และพระคัมภีร์ก็สำเร็จตามที่กล่าวไว้ว่า“อับราฮัมเชื่อพระเจ้า และพระองค์ทรงถือว่าเขาชอบธรรม และเขาได้ชื่อว่าเป็นสหายของพระเจ้า” พวกท่านก็เห็นแล้วว่า คนหนึ่งคนใดจะถูกชำระให้ชอบธรรมได้ก็เพราะการประพฤติ และไม่ใช่เพราะความเชื่อเพียงอย่างเดียว เช่นเดียวกัน ราหับหญิงโสเภณีก็ถูกชำระให้ชอบธรรมเพราะการประพฤติไม่ใช่หรือ? เมื่อนางได้ต้อนรับพวกผู้สอดแนม และส่งเขาทั้งหลายไปโดยทางอื่น กายที่ปราศจากจิตวิญญาณนั้นตายแล้วอย่างไร ความเชื่อที่ปราศจากการประพฤติก็ตายแล้วอย่างนั้น
|
 |
สำรวจพระคัมภีร์• จะเกิดอะไรขึ้น (หรือควรจะเกิดอะไรขึ้น) เมื่อคนๆ หนึ่งมาเชื่อพระเจ้า? • ยากอบยกตัวอย่างอะไร? การกระทำแบบไหนที่เป็นผลมาจากความเชื่อในพระเจ้า? • อะไรคือสองสิ่งที่คริสเตียนต้องมีคู่กันเสมอ? |
รู้หรือไม่ว่า...ยากอบ ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า “ยากอบ” ในที่นี้หมายถึงใคร เชื่อกันว่าอาจเป็นยากอบที่เป็นน้องชายของพระเยซูซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำคริสตจักรชองคริสเตียนแห่งแรกในกรุงเยรูซาเล็ม เขียนถึงใคร? จดหมายฉบับนี้ไม่ได้เขียนถึงคริสตจักรหนึ่งคริสตจักรใดโดยเฉพาะ แต่เขียนถึงคริสเตียนทุกคนทั่วโลก วัสดุที่ใช้เขียน จดหมายหลายฉบับในพันธสัญญาใหม่เขียนขึ้นบนกระดาษปาปิรัส หรือหนังสัตว์ที่เอามาทำให้เป็นแผ่น จากนั้นจะถูกม้วนเก็บไว้เป็นหนังสือม้วน และสามารถเพิ่มความยาวได้ด้วยการนำกระดาษมาต่อกัน |
 |
ลองทำดูสิ |
|
|
มีสิ่งดีอะไรบ้างที่คุณสามารถทำได้ในหนึ่งสัปดาห์? คุณไม่จำเป็นต้องปีนเขา หรือวิ่งมาราธอน แค่สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน สิ่งที่คุณทำทุกๆ วัน ก็สามารถแสดงน้ำใจของคุณต่อผู้อื่นได้ ที่บ้าน คุณอาจจัดห้องนอนเพื่อให้มีที่ว่างมากขึ้น ทำความสะอาดกรงหนูแฮมสเตอร์ หรือทำงานบ้านเองโดยไม่ต้องรอคำสั่ง ที่โรงเรียน คุณอาจช่วยทำความสะอาดแปรงระบายสี หรือจัดเก้าอี้ให้เรียบร้อย สิ่งที่คุณพูดก็เป็นการแสดงน้ำใจได้เช่นกัน พูดขอบคุณผู้ที่ทำอาหารให้คุณทาน พูดขอบคุณคนขับรถเมื่อคุณลงจากรถ เล่าเรื่องตลกให้เพื่อนฟังเพื่อให้กำลังใจในเวลาที่เขารู้สึกแย่ ลองดูว่าคุณกลายเป็นคนที่ดีขึ้นขนาดไหน เมื่อจดจ่อที่การพูดและทำแต่สิ่งดีๆ ให้ทำต่อไปอย่างเงียบๆ และไม่จำเป็นต้องโอ้อวดในสิ่งเหล่านี้เลย ทำไมไม่ลองตั้งเป้าให้ตัวเองดูล่ะ? ลองคิดถึงเจ็ดสิ่งที่อยากจะพูดหรือทำในหนึ่งสัปดาห์ได้ไหม(วันละหนึ่งอย่าง)? ถ้าคุณรู้สึกว่านี่ไม่ใช่เรื่องยากเลย ก็ให้ลองทำต่อไปอีกหนึ่งสัปดาห์ และอีกหนึ่งสัปดาห์ ทำต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง คุณไม่จำเป็นต้องคิดหรือต้องนับอีกต่อไป |
 |
พูดคุยกับพระเจ้า“องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดช่วยให้ฉันรับใช้พระองค์ตลอดชีวิตของฉันและเป็นสหายที่สัตย์ซื่อของพระองค์ เหมือนอย่างที่พระองค์ทรงเป็นสหายที่สัตย์ซื่อของฉัน” |
