เรื่องราวที่ 68 พระเยซูสิ้นพระชนม์
![]() |
ลองคิดถึงสิ่งที่คุณได้ค้นพบเกี่ยวกับพระเยซู คุณจำเหตุการณ์ที่พระองค์รักษาคนป่วยได้ไหม? พระองค์มีถ้อยคำใดหรือกระทำสิ่งใดที่น่าอัศจรรย์บ้าง? อะไรคือสิ่งที่น่าอัศจรรย์ที่สุดที่พระเยซูได้กระทำ? คุณคิดว่าคนแบบนี้สมควรที่จะถูกเยาะเย้ย ถูกทรมาณ และ ถูกประหารชีวิตไหม? คุณเคยดูภาพยนต์ที่เกี่ยวกับการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูไหม? ตอนไหนที่คุณรู้สึกว่าเลวร้ายที่สุด? |
เรื่องมีอยู่ว่า...ปีลาตบอกกับฝูงชนเหล่านั้นว่า เขาไม่พบว่าพระเยซูทรงกระทำความผิดใดๆ เลย และต้องการปล่อยพระเยซูให้เป็นอิสระ แต่ฝูงชนยังคงตะโกนเสียงดังว่าพวกเขาต้องการให้พระเยซูถูกประหารชีวิต |
ยอห์น 19:16-30 พระเยซูสิ้นพระชนม์ |
แล้วมีอะไรต่อ...โยเซฟซึ่งเป็นสหายของพระเยซูได้รับอนุญาตให้ฝังพระศพของพระเยซู เขาจึงนำร่างของพระเยซูลงจากไม้กางเขน พร้อมด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนอีกคนหนึ่ง คือ นิโคเดมัส ร่างของพระเยซูถูกพันผ้าและบรรจุไว้ในอุโมงค์อยู่ในสวนแห่งหนึ่ง มีก้อนหินขนาดใหญ่ปิดปากอุโมงค์ไว้ ดูเหมือนว่านี่เป็นตอนจบของเรื่องทั้งหมด แต่มันจบแล้วจริงเหรอ? |
แล้วปีลาตก็มอบพระองค์ให้เขาไปตรึงที่กางเขน พวกทหารจึงพาพระเยซูไป และพระองค์ทรงแบกกางเขนของพระองค์ไปยังที่ที่เรียกว่า กะโหลกศีรษะ ภาษาฮีบรูเรียกว่า กลโกธา ที่นั่นพวกเขาตรึงพระองค์ไว้ที่กางเขนพร้อมกับชายอีกสองคนคนละข้าง โดยมีพระเยซูทรงอยู่กลาง ปีลาตให้เขียนป้ายติดไว้บนกางเขนอ่านว่า “เยซูชาวนาซาเร็ธกษัตริย์ของพวกยิว” พวกยิวจำนวนมากได้อ่านป้ายนี้ เพราะที่ที่เขาตรึงพระเยซูนั้นอยู่ใกล้กับกรุง และป้ายนั้นเขียนเป็นภาษาฮีบรู ภาษาลาติน และภาษากรีก พวกหัวหน้าปุโรหิตของพวกยิวจึงเรียนปีลาตว่า “อย่าเขียนว่า ‘กษัตริย์ของพวกยิว’ แต่เขียนว่า ‘คนนี้บอกว่า “เราเป็นกษัตริย์ของพวกยิว” ’ ” ปีลาตตอบว่า “อะไรที่เราเขียนแล้วก็แล้วไป”
เมื่อพวกทหารตรึงพระเยซูไว้ที่กางเขนแล้ว พวกเขาก็เอาเสื้อของพระองค์มาแบ่งออกเป็นสี่ส่วน ให้ทหารคนละส่วน เว้นแต่เสื้อใน เสื้อในนั้นไม่มีตะเข็บ ทอเป็นผืนเดียวตลอด เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงปรึกษากันว่า “เราอย่าฉีกแบ่งกันเลย แต่ให้เราจับฉลากกัน จะได้รู้ว่าใครจะได้เป็นเจ้าของ” ทั้งนี้เพื่อให้เป็นจริงตามข้อพระคัมภีร์ที่ว่า “เสื้อผ้าของข้าพระองค์ เขาแบ่งกัน และเสื้อของข้าพระองค์เขาจับฉลากกัน”
พวกทหารทำกันอย่างนี้ คนที่ยืนอยู่ข้างกางเขนของพระเยซูนั้นมีมารดากับน้าสาวของพระองค์ มารีย์ภรรยาของเคลโอปัสและมารีย์ชาวมักดาลา เมื่อพระเยซูทอดพระเนตรเห็นมารดาของพระองค์ และสาวกคนที่พระองค์ทรงรักยืนอยู่ใกล้พระองค์ จึงตรัสกับมารดาของพระองค์ว่า “หญิงเอ๋ย นี่คือบุตรของท่าน” แล้วพระองค์ตรัสกับสาวกคนนั้นว่า “นี่คือมารดาของท่าน” แล้วสาวกคนนั้นก็รับมารดาของพระองค์มาอยู่ในบ้านของตนตั้งแต่เวลานั้น
หลังจากนั้นพระเยซูทรงทราบว่าทุกสิ่งสำเร็จแล้ว และเพื่อให้เป็นจริงตามข้อพระคัมภีร์ พระองค์จึงตรัสว่า “เรากระหายน้ำ” ที่นั่นมีภาชนะใส่เหล้าองุ่นเปรี้ยววางอยู่ พวกเขาจึงเอาฟองน้ำชุบเหล้าองุ่นเปรี้ยวใส่ปลายไม้หุสบ ชูขึ้นให้ถึงพระโอษฐ์ของพระองค์ เมื่อพระเยซูทรงรับเหล้าองุ่นเปรี้ยวแล้ว พระองค์ตรัสว่า “สำเร็จแล้ว” และก้มพระเศียรลงสิ้นพระชนม์
|
![]() |
สำรวจพระคัมภีร์• แม้พระเยซูอยู่บนไม้กางเขนแล้ว แต่พระองค์ยังทรงห่วงอะไรหรือห่วงใครอยู่? พระเยซูตรัสว่าอะไร? • พระเยซูหมายความว่าอย่างไรเมื่อพระองค์ตรัสว่า "สำเร็จแล้ว"? อ่านยอห์น 3:16 หรืออิสยาห์บทที่ 53 • การสิ้นพระชนม์ของพระเยซูเป็นส่วนหนึ่งของแผนการของพระเจ้า มีความหมายว่า ทุกคนที่ต้องการได้รับการอภัยและเริ่มต้นชีวิตใหม่สามารถทำได้ โดยมีพระเจ้าเป็นพระบิดา ถามโค้ชพระคัมภีร์ของคุณว่าสิ่งนี้มีความหมายกับพวกเขาอย่างไร |
รู้หรือไม่ว่า...ไม้กางเขน การถูกตรึงที่ไม้กางเขน (การตรึงกางเขน) เป็นวิธีการตายที่ทรมาณ เขาต้องแบกไม้กางเขนและถูกตอกตะปูตรึงไว้กับไม้กางเขนนั้น หลังจากนั้นไม้กางเขนจะถูกยกขึ้นตั้งฉากกับพื้น อาจต้องอยู่ในสภาพนี้หลายวันกว่าจะตาย กษัตริย์ของพวกยิว ปีลาตยืนยันให้ติดป้ายที่มีข้อความนี้อยู่เหนือศีรษะของพระเยซู ป้ายนี้ถูกเขียนขึ้น 3 ภาษาด้วยกัน (อารเมค, ลาติน และ กรีก) เพื่อทุกคนจะสามารถอ่านเข้าใจได้ ฟองน้ำและเหล้าองุ่น หรือ น้ำส้มสายชู มีการส่งเหล้าองุ่นราคาถูกให้กับคนที่ถูกตรึงกางเขนได้จิบ เพื่อช่วยลดความเจ็บปวด |
![]() |
ลองทำดูสิ |
|
บ่อยครั้งที่เราทำอะไรตามใจแทนที่จะทำในสิ่งที่พระเจ้าอยากให้ทำ สิ่งนี้เรียกว่า “ความบาป” ความบาปแยกเราออกจากพระเจ้า และไม่ว่าเราจะพยายามมากแค่ไหน เราก็ไม่สามารถเอาชนะความบาปได้ ต้องมีใครสักคนมารับโทษสำหรับความบาปที่เราได้ทำ และมีเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่จัดการกับความบาปได้ คือ พระเยซู! เมื่อพระเยซูสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน พระองค์ถูกลงโทษเพราะความบาปของเรา เมื่อพระองค์ทรงเป็นขึ้นจากความตาย พระองค์ทรงทำให้ผู้ที่ติดตามพระองค์ได้กลับคืนดีกับพระเจ้า พระเยซูทรงจัดการกับความบาปของเราแทนเรา ถ้าเราหันหลังให้กับความบาปและสารภาพกับพระเจ้า พระองค์จะทรงยกโทษให้เรา เพื่อเราจะได้อยู่กับพระองค์ตลอดไป นี่เป็นของประทานโดยไม่คิดมูลค่าจากพระเยซู ซึ่งเราไม่สามารถทำได้เองหรือหาซื้อได้ด้วยเงิน เราแค่ต้องยอมรับเท่านั้น เมื่อเราเลือกพระเยซูและทูลขอการยกโทษ พระเจ้าทรงลืมความบาปของเราที่ผ่านมาในอดีตแล้วให้เราเริ่มต้นใหม่แบบหมดจด จากนั้นการผจญภัยของการติดตามพระเยซูก็ได้เริ่มต้นขึ้น คุณอาจต้องการคุยเรื่องเหล่านี้มากขึ้นกับโค้ชพระคัมภีร์หรือเพื่อนในคริสตจักรของคุณ |
![]() |
พูดคุยกับพระเจ้าใช้เวลาเงียบๆ ใคร่ครวญว่าพระเยซูได้เสียสละเพื่อเรามากแค่ไหน แล้วอธิษฐานขอบคุณพระเจ้าด้วยถ้อยคำของคุณเอง |